นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า

คณะกรรมการของบริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ว่าจ้างของคู่ค้า (“บริษัท”) ออกประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้คู่ค้าของบริษัทพึงรับทราบเกี่ยวกับสิทธิและเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท โดยมีรายละเอียด ต่อไปนี้

ทั้งนี้ ภายใต้ประกาศฉบับนี้ คู่ค้า หมายความรวมถึงผู้จัดหาและจัดส่งสินค้า ผู้ให้บริการภายนอก ลูกจ้างชั่ว คราวและคู่ค้าในกรณีอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัท (“คู่ค้า”)

ข้อ 1 ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า” และให้มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่บริษัทประกาศเป็นต้นไป

ข้อ 2 บรรดาประกาศ ระเบียบ คำสั่ง คู่มือการปฏิบัติงานของบริษัท และ/หรือแนวปฏิบัติงานใดๆ ที่บริษัทได้ออกบังคับใช้ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ให้ยังคงใช้บังคับต่อไปตราบเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดในประกาศนี้ โดยหากมีข้อความหรือถ้อยคำใดๆ ที่ขัดหรือแย้งกับประกาศฉบับนี้ ให้ถือเอาข้อความหรือถ้อยคำในประกาศฉบับนี้มีผลบังคับ แต่ทั้งนี้ ไม่มีผลให้การปฏิบัติที่ผ่านมาก่อนประกาศฉบับนี้เสียไป เว้นแต่จะได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น

ข้อ 3 บริษัทอาจปรับปรุงประกาศฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างและการทำสัญญาจ้างงานที่บริษัทอาจมีกับคู่ค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้คู่ค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการติดและแจ้งประกาศฉบับปรับปรุงใหม่ที่สำนักงานของบริษัท โดยประกาศนั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อประกาศ

ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จะได้รับการประมวลโดยบริษัท เพื่อจุดประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ ได้แก่ (1) ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนโดยตรง อาทิ ชื่อ เลขที่และสำเนาบัตรประจำประชาชน อายุ วันเดือนปีเกิด รวมถึงข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์ติดต่อ อีเมล และประวัติแสดงคุณสมบัติอื่นที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของท่าน ซึ่งท่านได้ให้ตามแบบฟอร์มการรับสมัครเป็นคู่ค้า (2) ข้อมูลการชำระเงิน อาทิเช่น บัญชีธนาคาร ประวัติการเบิกจ่ายเงินต่างๆ โดยคู่ค้ารายนั้นๆ และ (3) ข้อมูลประวัติการทำงาน และแบบประเมินความสามารถและการวัดผลต่างๆ

ข้อ 5 ภายใต้กรอบ (1) การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าจ้างภายใต้สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง (2) การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยเฉพาะการทำบัญชีและชำระภาษี รวมถึง (3) การคุ้มครองสิทธิประโยชน์อันชอบด้วย กฎหมายของบริษัท บริษัทมีวัตถุประสงค์หลักในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าที่ระบุไว้ ได้แก่ การติดต่อประสานงานกับคู่ค้าในการปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ภายใต้สัญญาจ้างตลอดระยะเวลาการว่าจ้างงาน รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการประเมินความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานของคู่ค้าแต่ละราย เมื่อต้องดำเนินการประเมินบังคับสิทธิต่อคู่ค้าที่อาจปฏิบัติไม่สอดคล้องหรือละเมิดหน้าที่การจ้างงานที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิของบริษัทในฐานะผู้ว่าจ้างภายใต้สัญญา และเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการปกป้องสิทธิในการฟ้องร้องคดีหรือการป้องกันการฉ้อโกงบริษัท

ข้อ 6 บริษัทประกาศกำหนดเงื่อนไขการเก็บและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าไว้ตลอดระยะเวลาสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของคู่ค้าแต่ละราย นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการปกป้องสิทธิของบริษัทภายใต้สัญญาที่เกี่ยวข้อง บริษัทสงวนสิทธิ์์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามกำหนดอายุความเพื่อการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของบริษัทในกรณีเกิดข้อพิพาทต่างๆ ทั้งนี้ บริษัทกำหนดระยะเวลาเก็บรักษาไว้ที่ 3 ปีหลังจากหมดหน้าที่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานดังกล่าว เว้นแต่มีความจำเป็นอื่นกรณีเกิดข้อโต้แย้งสิทธิและในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีและบัญชีหรือกฎหมายอื่นๆ ของบริษัท ข้อมูลดังกล่าวอาจได้รับการเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด

ข้อ 7 เพื่อประโยชน์ในการให้การปฏิบัติหน้าที่ของคู่สัญญาตามสัญญาที่เกี่ยวข้อง บริษัทกำหนดนโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าภายใต้หลักการ ดังนี้ (1) เปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทให้ช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท โดยจะเป็นการเปิดเผยบนหลักการเท่าที่จำเป็นภายใต้สัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างบริษัทและผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวเท่านั้น และ (2) เปิดเผยตามหน้าที่ที่บริษัทมีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยงานภาครัฐต่างๆ หรือเป็นการเปิดเผยกรณีที่บริษัทอยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษาหรือตามคำสั่งของหน่วยงานราชการให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัทจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่เท่านั้น

ข้อ 8 บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวน มาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 9 บริษัทประกาศยืนยันสิทธิตามกฎหมายของคู่ค้า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
1.สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
2.สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถ อ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
3.สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
4.สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
5.สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
6.สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่คู่ค้าเคยให้ไว้

ช่องทางการติดต่อ
ฝ่ายจัดซื้อ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
02-048-7111 E-Mail : pu.pur@sfcinema.com