สตีเว่น สปีลเบิร์ก ชายผู้หลงใหลในไดโนเสาร์ สู่แฟรนไชส์ Jurassic ที่ครองใจผู้ชมทั่วโลก

         สตีเว่น สปีลเบิร์ก คือหนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและมีอิทธิพลที่สุดในวงการ ทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสุดยอดภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง Jaws, E.T. The Extra-Terrestrial และภาพยนตร์แฟรนไชส์ชุด Indiana Jones รวมถึง Jurassic Park หนึ่งในผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและกลายมาเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก นับตั้งแต่ออกฉายในปี 1993 จนมีภาคต่อตามมาอีกหลายภาค

       โดยสปีลเบิร์กเป็นแฟนไดโนเสาร์มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ซึ่งผู้กำกับคนดังเคยเล่าว่า "คำยาวๆ คำแรกๆ ที่ผมหัดพูด ก็คือชื่อพันธุ์ของไดโนเสาร์ และเมื่ออายุ 6 ขวบ ผมก็พูดชื่อไดโนเสาร์ยาวๆได้ การสร้าง Jurassic Park จึงเหมือนฝันที่เป็นจริง"

"ผมคิดว่าอย่างหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ สนใจในสิ่งมีชีวิตนี้ก็คือ พวกไดโนเสาร์มีความลึกลับ มีคำกล่าวจากนักจิตวิทยาจากฮาร์วาร์ดที่ถูกถามว่าทำไมเด็กๆ ถึงชอบไดโนเสาร์มาก เขาตอบว่า 'ง่ายมากเลย พวกมันตัวใหญ่ พวกมันดุร้าย และพวกมันตายหมดแล้ว' แต่ตอนนี้พวกมันก็กลับมาแล้ว" สปีลเบิร์กหัวเราะ

         "สำหรับผม สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างหนังชุดนี้ก็คือ มันมีความเป็นวิทยาศาสตร์มากพอๆ กับที่มีการผจญภัยและเรื่องน่าตื่นเต้น อย่างใน Jurassic Park มันเป็นลูกผสมระหว่างสวนสัตว์กับสวนสนุก เป็นเรื่องเกี่ยวกับไอเดียที่ว่ามนุษย์สามารถที่จะนำไดโนเสาร์กลับคืนสู่โลกในอีกหลายล้านปีต่อมา และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเรามาร่วมมือกันและเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ด้วยกันเอง"

นอกเหนือจากทีมนักแสดงที่มีความสามารถแล้ว Jurassic Park ทีมออกแบบระดับคว้ารางวัลยังได้คิดสร้างสรรค์และลงมือสร้างไดโนเสาร์ที่จะอาศัยอยู่ในสวนสนุกแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อความสมจริง กับการคิดประดิษฐ์เชิงเทคนิคในแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อนในภาพยนตร์ ซึ่งทำให้ไดโนเสาร์ในเรื่องสร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมและกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์ในยุคนั้น

        กระทั่งปีนี้ โลกของไดโนเสาร์ก็มาสู่เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับภาคล่าสุด "Jurassic World: Fallen Kingdom จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย" ภายใต้การกำกับของ  เจเอ บาโจน่า โดยมี สปีลเบิร์ก นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งสปีลเบิร์กมีความตื่นเต้นไม่แพ้แฟนๆที่มรดกที่เขาเริ่มไว้ในปี 1993 ได้ถูกสืบทอดและขยายต่อใน Fallen Kingdom

สปีลเบิร์กพอใจที่บาโจน่าสามารถประสานเอกลักษณ์ของเขาลงไปในจักรวาลที่มีสไตล์อันโดดเด่นเฉพาะตัวอยู่แล้ว "สิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์ชุด Jurassic มีเหมือนกันก็คือ พวกมันถูกสร้างโดยผู้สร้างที่รักงานสร้างภาพยนตร์ครับ" สปีลเบิร์กกล่าว "ฮวน แอนโตนิโอได้สร้างงานที่น่าทึ่งผ่านงานศิลปะของเขา เพื่อจะทำให้ Fallen Kingdom ดูคล้ายกับภาพยนตร์ภาคแรกที่ผมกำกับเอาไว้ และเหมือนภาพยนตร์ตอนสุดท้ายที่โคลิน (เทรวอร์โรว์) กำกับ แต่ยังคงทำให้มันเป็นผลงานของเขาเองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เพราะเขาคือผู้กำกับตัวจริงที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เขาพบวิธีที่ไม่ต้องเปลี่ยนโทนหรืออารมณ์ หรือสไตล์ของ Jurassic Park แต่ยังเป็นวิธีที่ทำให้ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นงาน Jurassic World ของเขาเอง เราโชคดีมากที่เขานำสไตล์ของเขามาสู่ภาพยนตร์ชุดของเรา"

พบการผจญภัยและความตื่นเต้นลุ้นระทึกไปกับ "Jurassic World: Fallen Kingdom จูราสสิค เวิลด์: อาณาจักรล่มสลาย" วันนี้ ในโรงภาพยนตร์และระบบ MX4D

ตัวอย่างภาพยนตร์