ผู้อำนวยการสร้างฯ "บิล เกอร์เบอร์" เล่าถึงการทำงานของผู้กำกับ "แบรดลีย์ คูเปอร์" ในภาพยนตร์เรื่อง A Star Is Born ว่า "แบรดลีย์ไม่ได้ตัดสินใจจากสิ่งที่เขาเจอมา แต่ตัดสินใจจากจินตนาการในหนังที่ดูเหมาะสม สิ่งที่สะท้อนถึงตัวผมและเขาได้เสมอไม่ใช่แค่เรื่องราวที่หยอกล้อกันทั่วไป หรือเรื่องราวสอนใจเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดขึ้นจากการมีชื่อเสียง แต่เป็นเรื่องราวความรัก และนี่เป็นจินตนาการของแบรดลีย์ที่เกิดขึ้นจากการคุยกันระหว่างเขากับสเตฟานี่" เขากล่าว ซึ่งชื่อนั้นหมายถึงชื่อจริงของกาก้า "เกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาในฐานะของศิลปิน คือไม่มีการพูดถึงเรื่องประวัติชีวิตเลย แต่นั่นคือวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวในแบบที่เราอยากเล่า"

        ในเรื่อง "แจ็คสัน เมน" ตัวละครที่รับบทโดยคูเปอร์จะมีแนวคิดที่พยายามผลักดันคนดื้อรั้นให้ออกไปเผชิญผู้คน แจ็คบอกกับ "แอลลี่" (เลดี้ กาก้า) ตอนพบกันครั้งแรกว่า "พรสวรรค์มาจากทุกหนทุกแห่ง แต่ต้องมีวิธีการถ่ายทอดผู้คนถึงจะรับฟัง ซึ่งมันคือคนละอารมณ์กันเลย เราต้องออกไปลองทำไม่งั้นก็ไม่มีทางรู้ ซึ่งนั่นคือเรื่องจริง"

          ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เหมือนเป็นการเผยความนัยผ่านตัวละครของคูเปอร์ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสร้างแรงบันดาลใจให้เขา จนในที่สุดได้ทดสอบความแข็งแกร่งของเขาด้วยการทำงานเบื้องหลัง "ผมรู้ตัวเองมาตลอดว่าอยากกำกับหนัง แต่ก็รู้อีกด้วยว่าผมต้องมีจุดยืน ต้องรู้เหตุผลในการทำ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นดูไร้เหตุผล และผมก็อยากถ่ายทอดเรื่องราวความรักมาตลอด เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจได้ ความรัก ความสูญเสีย มันคือที่สุดของความรู้สึกแล้ว มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกถึงการมีชีวิตมากที่สุด

คูเปอร์เล่าต่อว่า "ทั้งคุ่ถูกเชื่อมกันด้วยเสียงงดนตรี ไม่ใช่แค่เสียงดนตรีสิ แต่รวมถึงการร้องเพลงด้วย" อันที่จริงคูเปอร์และกาก้าตกลงกันแต่แรกว่าจะบันทึกการแสดงสดของพวกเขาในหนังเอาไว้ จะไม่มีการลิปซิงค์ในเพลงเกิดขึ้น "การร้องเพลงมันมีอะไรบางอย่าง นั่นคือความจริงใจ... เราปิดบังไม่ได้เลย ผมคิดว่าสองสิ่งนั้นเมื่อมารวมตัวกัน อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ผมค้นพบจุดยืนก็ได้"

เตรียมพบกับภาพยนตร์สุดโรแมนติกที่เสียงตอบรับจากหลายคนที่ได้ชมต้องบอกว่านี่จะเป็นผลงานฮอลลีวูดชั้นเลิศ "A Star Is Born" 11 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์