“ดันเคิร์ก สมรภูมิรบแห่งมิตรภาพ”
หากจะเอ่ยถึงผู้กำกับระดับโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันดับต้นๆ คงต้องนึกถึง คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่โดดเด่นในยุคนี้มาก จุดเริ่มต้นฉายแววคือ Memento ภาพหลอนซ่อนรอยมรณะ ในปี 2543 ที่เล่าเรื่องตัดต่อกลับไปกลับมาอย่างมีชั้นเชิง ตามมาด้วย The Prestige ปี 2549 และความท้าทายครั้งสำคัญนั่นคือการคุมบันเหียน Batman Trilogy สามารถฉีกแนวซุปเปอร์ฮีโร่ไปอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ออกสมจริงมากกว่าเป็นแฟนตาซีดังที่เห็นจากเวอร์ชั่นเก่าก่อน จนกลายเป็นของขึ้นหิ้ง Batman Begins ปี 2548, The Dark Knight ปี 2551 และปิดไตรภาคสวยงามด้วย The Dark Knight Rises ปี 2555 แถมก่อนหน้านั้นยังไปทำหนังเป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญอีก นั่นคือ Inception ปี 2553!! เล่นเอาคนดูอ้าปากค้างในการเขียนบท, ใช้เทคนิคพิเศษล้ำยุค, การกำกับเหนือจินตนาการด้วยวิสัยทัศน์ของโนแลน ยากหาใครทัดเทียมไม่! ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น ตอกย้ำผลงานชิ้นเอกอีกเรื่อง Interstella ปี 2557 เข้าทำเนียบผู้กำกับอัจฉริยะของฮอลลีวู้ดไปอย่างสมศักดิ์ศรี
Dunkirk ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วในปีพ.ศ. 2501 เป็นเรื่องราวปฏิบัติการอพยพพลทหารที่ดันเคิร์ก สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ความท้าทายของโนแลน คือการหยิบกลับมาทำในมุมมองใหม่ของเขาเอง ทั้งเขียนบทและกำกับการแสดง ใช้ดนตรีประกอบยอดฝีมือจาก ฮันท์ ซิมเมอร์ส นำแสดงโดย แฮรี่ สไตลล์ วงบอยแบนด์วันไดเร็คชั่น, ทอม ฮาร์ดี้ จาก Mad Max, ซิลเลี่ยน เมอร์ฟี่, เคนเน็ท บรานาจ์ และ มาร์ก ไรแล็นซ์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม รางวัลออสการ์จาก The Bridge of Spies โนแลนทุ่มเทถึงขนาดใช้โลเคชั่นจริงในการถ่ายทำ สร้างสะพานกลางทะเลคราคร่ำไปด้วยเหล่าทหารรอความหวังอันริบหรี่ อีกทั้งต้องเผชิญอุปสรรคพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก โดยพยายามไม่ใช้เทคนิคพิเศษหรือกรีนรูมในสตูดิโอเหมือนหนังปัจจุบันที่มักง่ายจะใช้ซีจีอย่างเดียว ทำให้ภาพออกมาบรรยากาศอึมครึมกดดัน เหมือนเราอยู่ในยุทธการดันเคิร์ก หากคนดูจะคิดว่าเป็นหนังสงครามทั่วไปที่เคยเห็นมาแล้วดาดดื่น ขอบอกว่าผิดถนัด มันช่างแตกต่างกว่าที่ดูอย่างสิ้นเชิง
ดันเคิร์กเป็นเรื่องราวชะตากรรมของเหล่าทหาร 400,000 นาย ทั้งฝ่ายพันธมิตร อังกฤษและฝรั่งเศส ถูกทิ้งรอความตายจากการถล่มโดยเครื่องบินข้าศึกกองทัพนาซี โจมตีทางอากาศจนเรือรบอับปางไปหลายลำ มีเพียงเหล่าพลเรือนจิตอาสาเสียสละชีวิตเสี่ยงภัย นำเรือธรรมดาไร้อาวุธ 700 ลำไปช่วยเหลือเหล่าทหารให้รอดตายได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน ร่วมด้วยนายทหารหนุ่มผู้กล้านำเครื่องบินรบ ต่อสู้ศัตรูตะลุยเดี่ยว คอยปกป้องพลทหารด้านล่าง ลาดตระเวนบนฟ้าอย่างไม่เกรงกลัวใคร
คนดูจะลุ้นไปกับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกที่ดูเหมือนจริงราวกับมีชีวิต ให้แง่คิด แม้ยามศึกสงคราม โดยส่วนใหญ่ทหารจะเป็นฝ่ายช่วยเหลือประชาชน แต่ด้วยคนธรรม ดาสามัญทั่วไปลองผนึกพลังแห่งความสมัครสมานสามัคคีด้วยแล้ว ก็จะสามารถรักษาชีวิตทหารหรือผู้หมดหวังไร้ทางสู้ได้อย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน งานนี้คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้ใจนักวิจารณ์และคนดูอีกครั้ง ขอคารวะในการสร้างสรรค์หนังดีๆ ความหมายลึกซึ้ง เฉกเช่นนี้
โดย : ภูชิชญ์ อรรครฐานะ