4 หนังสยองขวัญที่มีอิทธิพลต่อนิโคลาส แม็คคาร์ธี ผู้กำกับหนัง The Prodigy

Movie News18 กุมภาพันธ์ 2562

          นิโคลาส แม็คคาร์ธี เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช เกิดในรัฐนิวแฮมเชียร์ แล้วย้ายมาโตในบอสตัน เขาหลงรักการถ่ายทำภาพยนตร์ตั้งแต่เด็ก เริ่มหัดถ่ายหนังเองด้วยกล้อง Super8 ตั้งแต่วัย 10 ขวบ ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังฮอลลีวู้ดที่เขาเคยดู โดยเฉพาะหนังสยองขวัญ เรื่องที่เขาประทับใจมากสุดในวัยเด็กคือ Jaws ของสตีเวิน สปิลเบิร์ก บ้านที่นิโคลาส แม็คคาร์ธี อยู่ตอนเด็กๆ ก็บังเอิญอยู่ในละแวกเดียวกับบ้านที่ใช้ถ่ายทำ "Halloween"(1978) ภาคแรกของจอห์น คาร์เพนเตอร์ เสียด้วย แต่นิโคลาส ก็ไม่เคยดู Halloween ตอนที่ได้ออกฉายครั้งแรก เขาได้มาดูหนังเต็มเรื่องตอนที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว "ผมเคยได้ดูคลิปสั้นๆ จาก Halloween ในรายการทีวี ตอนที่ผมอายุได้ 9 ขวบ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นความแตกต่างระหว่างบ้านจริงที่ผมเคยเห็นกับตอนที่เป็นภาพในหนังมันให้ความรู้สึกต่างกันอย่างมาก พอมาเป็นภาพในหนังมันช่างทรงพลัง" และนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจหนึ่งให้นิโคลาส เลือกที่จะเดินตามความตั้งใจตั้งแต่วัยเด็กให้กลายมาเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญ


ซ้าย:ทริป วินสัน ผู้อำนวยการสร้าง , กลาง : นิโคลาส แม็คคาร์ธี ผู้กำกับ , ขวา : เจฟฟ์ บูห์เลอร์ ผู้เขียนบท ทั้ง 3 ยืนแอ็คชั่นหน้าบ้านที่ใช้ในการถ่ายทำ Halloween (1978)


        และเมื่อเขาได้มากำกับ "The Prodigy" ผลงานล่าสุด นิโคลาส ก็ใช้แรงบันดาลใจจากหนังสยองขวัญที่เขาประทับใจถ่ายทอดลงมาในผลงานล่าสุดนี้ และบางจุดบางตอนก็อาจจะแอบซ่อนผลงานเหล่านั้นไว้เป็นอีสเตอร์เอ้กในหนังด้วยความเคารพ อย่างเช่นตัวหนังสือที่ใช้บรรยายเครดิตตอนต้นเรื่อง นิโคลาสก็เจาะจงให้ใช้ฟอนต์แบบเดียวกับ "The Silence of the Lambs" หนังสยองขวัญคลาสสิกเรื่องหนึ่งของฮอลลีวู้ด และนี่คือ 4 หนังสยองขวัญที่นิโคลาส เผยว่ามีอิทธิพลต่อการเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญของเขา

 

1. Halloween (1978)



       "หนังมันมองเห็นชัดเจนเลยนะว่าเป็นหนังทุนต่ำ ก็เพราะงบที่จำกัดมากๆ ในยุคนั้น แม้ว่าบรรดาเด็กๆ ในหนังจะดูน่ารำคาญมาก แต่ว่าเจมี่ ลี เคอร์ติส ทีเป็นศูนย์กลางของเรื่องเธอช่างน่ามหัศจรรย์มากๆ เธอสะกดคนดูให้ตามติดอยู่กับเธอได้ตลอด สถานที่ต่างๆ ดูสมจริงมาก และตัวละครของเจมี่ ก็ถ่ายทอดออกมาได้สมจริง ซึ่งผมก็พยายาให้เทย์เลอร์ ชิลลิ่ง ใน The Prodigy ถ่ายทอดออกมาได้แบบนั้น"

 

2. A Nightmare on Elm Street (1984)



          "เรื่องนี้มีอิทธิพลกับผมอย่างมาก เมื่อคุณหลับตาลงแล้วคุณจะหลงไปอยู่ในโลกใหม่ แล้วไอ้โลกใหม่เนี้ยมันก็สามารถฆ่าคุณได้ มันเป็นแนวความคิดหนังที่ทั้งน่าสยองและน่าตื่นตาไปพร้อมกัน ในการสร้างสรรค์ตัวละครอย่างเฟรดดี้ ครูเกอร์ ขึ้นมามันก็ช่างน่าทึ่งมาก คือตัวเฟรดดี้ นี่ก็ดูเกือบๆ จะเหมือนตัวตลกอยู่แล้วนะ ทั้งเสื้อผ้าและท่าทางการพูด แต่ความเป็นมาที่ลึกลับและสยดสยองของเฟรดดี้นี่แหละที่น่ากลัวมาก เขาเป็นฆาตกรสุดโหดที่ฆ่าเด็กๆ ไปมากมาย จนพ่อแม่ทนไม่ได้ต้องร่วมมือกันลงทัณฑ์เฟรดดี้ด้วยน้ำมือพวกเขาเองด้วยการเผาเฟรดดี้ทั้งเป็น พอนึกถึงเรื่องราวพวกนี้ก็ยิ่งต้องทึ่งกับความอัจฉริยะของเวส คราเวน ที่คิดเรื่องพวกนี้ออกมาได้ และมันเป็นการพลิกบทบาทของวงการหนังเชือดในยุคนั้นเลยล่ะ"

 

3. The Exorcist (1973)



        "เรื่องนี้มีอิทธิพลต่อหนัง The Prodigy อย่างมากเลยครับ ผมได้ดู The Exorcist ครั้งแรกตอน 11 ขวบ แต่ละฉากของหนังมันสะกดความรู้สึกผมมาก ยิ่งผมเติบโตมาในครอบครัวแคทธอลิกด้วย ทำให้ผมยิ่งอินเป็นพิเศษ ถึงขั้นดูต่อไม่ได้อีกแล้ว พอมาได้กำกับ The Prodigy ก็เลยเป็นโอกาสดีที่เป็นช่องทางที่ผมจะได้คารวะแก่หนังเรื่องนี้ ผมประทับใจหลาย ๆ ฉากใน The Exorcist โดยเฉพาะครึ่งแรก ตอนนที่ เอลเล็น เบอร์สตีน เริ่มรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นกับลูกสาวของเธอ ผมประทับใจหลาย ๆ ฉากในช่วงนี้ แล้วก็นำมาถ่ายทอดลงใน The Prodigy ด้วย ใช้ในฉากที่ซาราห์ ผู้เป็นแม่ เข้ามาหา ไมลส์ ลูกชายของเธอในตอนดึกแล้วก็เห็นว่าไมลส์ถีบผ้าห่มหลุดออกจากตัว เธอเลยดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มลูกชาย ซึ่งเอลเล็น ก็ทำแบบนี้ใน The Exorcist เช่นกัน และอีกฉากในอ่างอาบน้ำ ซาราห์กำลังเทแชมพูใส่ผมของไมลส์ พลันไมลส์ก็ถามขึ้นมาว่า "แม่ครับ เกิดอะไรขึ้นกับผมเหรอครับ" นี่ก็เป็นประโยคเดียวกันเป๊ะกับใน The Exorcist"

 

4. Shock (1977)



          "ผลงานของมาริโอ บราวา ผู้กำกับหนังสยองขวัญผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของวงการ เขาถ่ายทอดพลังความน่ากลัวออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะฉากที่เด็กผู้ชายแวบแล้วกลายร่างเป็นผู้ใหญ่ต่อหน้าต่อตาคุณ ตอนที่ผมได้อ่านบทภาพยนตร์ The Prodigy ผลงานเขียนของ เจฟฟ์ บูห์เลอร์ ผมก็เพิ่มเติมความเป็น "Shock"เข้าไปในบทด้วย เพราะทั้ง 2 เรื่องนี้มีเนื้อหาใกล้เคียงกันมาก ผมมี DVD เรื่อง Shock อยู่ ผมก็เอามันมาให้นักแสดงนำทั้ง 3 ของผมดู ผมบอกกับพวกเขาว่าเราจะสร้างสรรค์เรื่องนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แล้วเราก็ทำมันเหมือนอย่างที่มาริโอ บราวา เคยทำไว้เป๊ะๆ มันน่าตื่นเต้นมาก ในฐานะที่ผมเป็นแฟนหนังตัวยงของมาริโอ บราวา ที่ได้จำลองฉากต่างๆ จากหนังที่ผมประทับใจมากตั้งแต่ 20 ปีก่อนนู้น"

เตรียมรับมือกับความสยองของ The Prodigy : เด็กนรก พร้อมกัน 21 กุมภาพันธ์ นี้

 

ตัวอย่างภาพยนตร์