Wonder Parคือการเฉลิมฉลองให้กับพลังของครอบครัว จินตนาการ ทีมเวิร์ก และความศรัทธาในตัวเอง Wonder Park เขียนบทและอำนวยการสร้างโดย อันเดร เนเม็ค และจอช แอพเพิลบอม ด้วยการผสมผสานการเล่าเรื่องแสนสนุก ตัวละครที่ยากจะลืมเลือน และฉากแอ็คชั่นสุดตื่นเต้น เข้ากับงานซีจีอนิเมชั่นที่แสนสวยงาม แอ๊ปเพลบาว์ม และเนเม็ค จึงได้สร้างเรื่องราวผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร และนางเอกของเรื่องที่ทำให้ลืมไม่ลง และได้ใส่ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับครอบครัวและพลังของจินตนาการลงไปด้วย

หัวใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือจูน เด็กหญิงหัวแดงที่เป็นคนหัวเร็วปานสายฟ้า การผจญภัยบนจอของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอเกือบจะทำลายละแวกบ้านด้วยรถไฟเหาะที่เธอสร้างขึ้นที่หลังบ้านเพื่อเอาไว้เล่นเองพร้อมกับเพื่อนซี้ที่ชื่อ บันกี้ "แม้ว่ามันจะดูอันตราย แต่จูนก็มีช่วงเวลาที่ดีครับ" เนเม็คกล่าว "จูนทุ่มเทตัวเองให้กับทุกอย่างที่เธอทำ และส่วนหนึ่งของเรื่องราวของเธอก็คือการทวงความรู้สึกผจญภัยที่เราได้เห็นในฉากนี้กลับคืนมา ในตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะได้เห็นเด็กหญิงที่มีความเข้าใจในชีวิตมากขึ้นว่าชีวิตต้องมีขึ้นมีลง"

        จูนไม่ใช่แค่เด็กเกรดสามผู้แสนเบิกบาน ที่มาพร้อมจินตนาการที่เป็นอิสระเท่านั้น แต่เธอยังเป็นนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ที่สนุกสนานกับการร้องเพลงประจำค่ายคณิตศาสตร์อย่างเพลง "My, My, Here Comes Pi" ซึ่งเธอร้องกับบันกี้ แม่ของจูนคอยให้การสนับสนุนลูกสาวทั้งทางด้านวิชาการและความคิดสร้างสรรค์ แอ๊ปเพลบาว์มตั้งข้อสังเกตไว้ "มีการพึ่งพิงกันระหว่างแม่กับลูกสาวอยู่ในทุกอย่างที่พวกเธอทำครับ โดยเฉพาะการสร้างวันเดอร์แลนด์ขึ้นมา" แอ๊ปเพลบาว์มกล่าว "แม่ของเธอยังช่วยสร้างพลังให้กับจูน ตั้งแต่เธอยังเป็นเพียงเด็กที่แสนซุกซน"

        นักแสดงหญิง บริอันนา เดนสกี ก้าวขึ้นมารับบทในภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่บทบาทแรกในชีวิตด้วยการให้เสียงพากย์เป็น จูน "ฉันมองว่าจูนเป็นเด็กหญิงประเภทที่มีความสุขสนุกสนานกับชีวิตค่ะ" เดนสกี้บอก "เธอเป็นคนคิดบวก ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอและฉันมีเหมือนกัน เราต่างก็เป็นนักแก้ปัญหา เราทั้งคู่ต่างมีจินตนาการสุดบรรเจิด เราเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เธออาจเก่งกว่าฉันในเรื่องของการแก้ไขและจัดการกับสิ่งต่างๆ ให้เป็นระเบียบค่ะ"!"

เมื่อแม่ของจูนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะป่วยหนัก มันเหมือนกับทำลายชีวิตที่เคยมีแต่ความสุขสนุกสนานของจูน เพราะความคิดสร้างสรรค์ของเธอทำให้เธอนึกถึงแม่ เธอจัดการเก็บวันเดอร์แลนด์และทิ้งมันไป และแทบไม่พูดถึงมันเลย "เมื่อไม่มีแม่อยู่ใกล้ๆ จูนก็เหมือนไม่มีจุดหมาย" แอ๊ปเพลบาว์มอธิบาย "ความทรงจำในหลายๆ เรื่องมันเจ็บปวดมากเกินไปครับ"

          "บางครั้งแม้แต่ความทรงจำที่มีความสุขก็ยากจะเผชิญหน้ากับมันได้ครับ" เนเม็คกล่าว "ความหวาดกลัวและความไม่แน่นอน ทำให้คุณหลงลืมส่วนที่ดีไป มันอาจกลายเป็นการต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อจะกลับไปหาความทรงจำเหล่านั้น แต่บทเรียนที่คุณได้เรียนรู้ก็ช่วยให้คุณกลายเป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้นครับ"

เมื่อ จูน ค้นพบวันเดอร์แลนด์ที่มีอยู่จริงครั้งแรก มันอยู่ในสภาพรกร้าง "ทุกอย่างถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุมค่ะ" เดนสกี้อธิบาย "หลายอย่างก็หลุดและพัง ไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ วันเดอร์แลนด์ถูกปิดตายไปแล้ว"

สัญชาตญาณแรกของเธอก็คือหนี แต่เธอพบว่าถ้าไม่มีการซ่อมแซมสวนสนุกแห่งนี้ เธอก็ไม่สามารถออกจากที่นั่นได้ "ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะยังไม่ยอมจบกับเธอในเวลานั้น" เนเม็คเล่า "เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันเดอร์แลนด์จะมีจริง มันเป็นไปได้ยังไงกัน แล้วผู้คนอยู่ที่ไหน ทำไมถึงได้มีความมืดบนท้องฟ้า แล้วเธอจะแก้ไขโลกนี้ได้อย่างไร นี่คือการเดินทางที่เธอจำต้องเดินไปเพื่อจะกู้คุณค่าในตัวเองกลับมา"

ต้องใช้ความเฉลียวฉลาดของเธอเพื่อสร้างสวนสนุกแห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ความฉลาดเป็นกรดของเธอก็ยังไม่เพียงพอ" เดนสกี้บอก "มันต้องใช้มิตรภาพและทีมเวิร์กในท้ายที่สุด การทำงานร่วมกันกับพวกที่อยู่ในสวนสนุกคือหนทางเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จลงได้ แม้จะเป็นเช่นนั้น มันก็ยังต้องใช้เงื่อนงำที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ในสวนสนุกแห่งนี้เพื่อจะซ่อมแซมแก้ไขทุกอย่างจนได้ค่ะ"

Wonder Park สวนสนุกสุดอัศจรรย์ ภาพยนตร์อนิเมชั่นถ่ายทอดเรื่องราวจากจินตนาการของ "จูน" เด็กผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เธอร่างแบบสวนสนุกกับคุณแม่ และเรื่องราวสวนสนุกในจินตนาการของเธอก็กลายมาเป็นความจริง เข้าฉายไทย 14 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์