อธิบายกันชัด ๆ ถึง 2 ฉากหลังเครดิตจบใน Shazam!
เป็นธรรมเนียมไปแล้วครับ สำหรับหนังที่มีจักรวาลของตัวเองอย่างมาร์เวล และ ดีซี ที่จะต้องมีฉากแถมหลังหนังจบมายั่วน้ำลายแฟนๆ ให้เกิดความอยากติดตามภาคต่อไป แรก ๆ ฉากหลังเครดิตจบ หรือ post credit scene (ไม่ได้เรียกว่า เอนด์ เครดิต นะครับ)จะมีแค่ฉากเดียว พอหลัง ๆ มานี่ฉากหลังเครดิตกลับเป็นจุดสนใจอย่างมากที่แฟน ๆ รอชม ผู้สร้างก็เลยเพิ่มฉากหลังเครดิตจบเป็น 2 ฉาก บางเรื่องก็มีถึง 3 ฉาก บางครั้งก็เป็นฉากเอาฮา แต่บางเรื่องก็สร้างเสียงฮือฮามาก มักเป็นการเปิดเผยตัวละครสำคัญในภาคต่อไป
อย่างใน Shazam! ก็มีถึง 2 ฉาก ฉากแรกไม่ต้องรอนานครับ หนังจบดูเครดิตผู้สร้าง นักแสดง ประกอบการ์ตูนลายเส้นแค่ 2-3 นาที ฉากหลังเครดิตจบก็มาแล้ว แนะนำอย่างยิ่งว่าควรรอดูฉากนี้เพราะมีการเผยถึงตัวละครสำคัญที่จะมีบทบาทอย่างมากในภาคต่อไป ส่วนฉากที่ 2 อันนี้ต้องรอนานเลย ต้องดูตัวหนังสือวิ่งประกอบเพลง บนพื้นหลังสีดำไปอีกยาวนานถึงจะได้ดูฉากนี้ เป็นฉากเอาฮาไม่ได้มีสาระสำคัญกับเนื้อหาในภาคต่อไปครับ พลาดไปก็ไม่น่าเสียดายอะไรมากครับ จากนี้มาว่ากันไปทีละฉาก เผื่อคนที่พลาด หรือดูแล้วยังไม่เข้าใจ มาอธิบายกันชัดๆ อีกที
*** จากนี้ไปเผยเนื้อหาสำคัญ ***
ฉากแรก
หลัง ดร.ซิวานา พ่ายแพ้ให้กับชาแซม เขาไม่ได้เสียชีวิต แต่โดนจับเข้าคุกคุมขังเป็นห้องเล็ก ดร.ซิวานา ยังพยายามที่จะพาตัวเองออกจากห้องขังด้วยการเขียนสัญลักษณ์ของ "บาป7ประการ" ด้วยหวังว่าความมหัศจรรย์จะบังเกิดเปิดช่องประตูพาเขาเปิดประตูไปสู่ห้อง"อัคนีนิรันด์"ได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ระหว่างที่เขาเขียนสัญลักษณ์จนเต็มผนังคุกทั้ง 4 ด้าน ระหว่างเขียนอยู่นั้น ชอล์คที่เขียนก็หัก มีเสียงสอดแทรกขึ้นมา ประชดประชันว่าสิ่งที่ ดร.ซิวานา ทำอยู่นั้นไร้สาระเหมือนเด็กๆ เมื่อ ดร.ซิวานา หันไปมองตามเสียงที่มาก็พบว่าเสียงที่พูดกับเขานั้นมาจากหนอนผีเสื้อที่ยืนอยู่ตรงขอบหน้าต่าง เจ้าหนอนผีเสื้อตัวนี้คือหนอนต่างดาว มีนามว่า "มิสเตอร์ไมนด์" เป็นอีกหนึ่งคู่ปรับตัวสำคัญของชาแซม ที่บรรดาแฟนๆ การ์ตูนจะรู้ถึงวีรกรรมของมิสเตอร์ไมนด์กันมาอย่างดี
มิสเตอร์ไมนด์ เป็นหนอนต่างดาวที่มาจากดาววีนัส มีภาพลักษณ์เป็นหนอนผีเสื้อที่มีลำตัวยาวเพียงแค่ 2 นิ้ว ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีพิษสงอะไรเลย แต่ความร้ายกาจของมิสเตอร์ไมนด์คือมันสมองที่อัจฉริยะในการวางแผนการร้าย และมีพลังจิตที่กล้าแข็งมาก มิสเตอร์ไมนด์สามารถสะกดจิตเป้าหมาย ใช้พลังจิตบังคับสิ่งของ และสร้างภาพหลอนได้
เรื่องราวในหนังสือการ์ตูนที่เป็นต้นแบบให้กับฉากนี้
ตลอด 2 ชั่วโมงกว่าของหนัง Shazam! ผู้กำกับก็พยายามเผยให้เห็นมิสเตอร์ไมนด์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกกล้องจะจับผ่านๆ ในฉากห้องโถงของพ่อมด กล้องจะถ่ายให้เราเห็นหนอนผีเสื้อมีโคมแก้วครอบไว้ ก็เข้าใจกันไปว่าน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงดูเล่นของพ่อมด และอีกฉากเมื่อ ดร.ซิวานา ในวัยผู้ใหญ่บุกไปโจมตีพ่อมด กล้องจับที่โคมแก้วอีกครั้ง แต่ครั้งนี้โคมแก้วแตกและหนอนผีเสื้อหายไปแล้ว และหนอนผีเสื้อตัวนั้นก็มาเผยโฉมว่ามันคือ "มิสเตอร์ไมนด์" ในฉากหลังเครดิตจบนี่เองมิสเตอร์ไมนด์ ได้เผยกับ ดร.ซิวานา ว่ามันมีแผนการใหญ่และต้องการให้ ดร.ซิวานา มาร่วมมือกับมัน ในโลกนี้ยังมีอาณาจักรแห่งมนตร์ดำและพลังวิเศษที่ยิ่งใหญ่กว่า "อัคนีนิรันด์" ของพ่อมดชาแซมเสียอีก มันรู้จักต้นกำเนิดของพลังวิเศษที่แข็งแกร่งกว่า ยิ่งใหญ่กว่าของพ่อมด รอคอยให้ ดร.ซิวานา ไปครอบครอง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็อาจจะเป็นสุสานของ "แบล็คอดัม" อีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่ในโครงการสร้าของดีซี และเคยทาบทาม ดเวย์น จอห์นสัน ไว้แล้วให้มารับบท
โฉมหน้าเหล่า the Monster Society of Evil
ในหนังสือการ์ตูนนั้น มิสเตอร์ไมนด์ เริ่มแนะนำตัวเองด้วย"เสียง" ในหนังสือการ์ูตูน Captain Marvel Adventures #22(1941) ก่อนจะปรากฏกายให้เห็นว่าเขาคือหนอนต่างดาวในหนังสือ Captain Marvel Adventures #26(1941) การที่มิสเตอร์ไมนด์มาเชิญชวนให้ ดร.ซิวานา เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเขานั้น คือการปูทางถึงแผนการร้ายในภาคต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ "สมาคมอสุรกายแห่งความชั่วร้าย" the Monster Society of Evil เป็นสมาคมรวมเหล่าร้ายของชาแซม ถือกำเนิดในปี 1941 นับเป็นการรวมทีมวายร้ายกลุ่มแรกในโลกการ์ตูน ก็ถ้า Shazam! ภาคต่อๆ ไปประสบความสำเร็จ เราน่าจะได้เห็นการรวมตัวของเหล่าร้ายมากพิษสงเหล่านี้
ฉากสอง
เป็นฉากขำขันครับ อ้างอิงถึงกระบวนการทดสอบความสามารถระหว่างเฟรดดี้ กับ ชาแซม ว่าซูเปอร์ฮีโร่รายนี้ทำอะไรได้บ้าง หลังจากพิสูจน์แล้วว่า ชาแซมบินได้ , ยิงแสงจากตาไม่ได้ และ หายตัวไม่ได้แล้ว ก็มาถึงบททดสอบล่าสุดว่าชาแซมจะมีพลังจิตที่สามารถสื่อสารกับปลาได้หรือไม่ ชาแซมยืนถือโหลปลาทอง แล้วก็พยามส่งกระแสจิตไปหาปลาทองในโหล แต่แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ชาแซมเริ่มหงุดหงิดแล้วก็บ่นว่า "ทำไมใครๆ ต้องอยากพูดคุยกับปลากันนัก" เฟรดดี้ก็ตอบโต้ทันทีว่า "เจ๋งจะตายไป ถ้าหากเราสามารถควบคุมกองทัพสัตว์น้ำได้"พลางชี้นิ้วไปที่เสื้อยืดของเขาที่มีสัญลักษณ์ Aquaman บนเสื้อ ชาแชมเห็นดังนั้นก็เบ้ปาก "มีพลังแบบนี้ไม่เห็นจะเท่ตรงไหนเลย" ก็เป็นมุกส่งท้ายที่ดีซีคิดขึ้นมาให้ซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายแซวกันไป แซวกันมาเอง
ในวันนี้ที่ Aquaman ขึ้นแท่นอันดับ 1 หนังดีซีที่ทำรายได้สูงสุด ด้วยตัวเลข 1,147 ล้านเหรียญ ตอนนี้เราก็รอลุ้นกันต่อไปว่า Shazam! จะทำรายได้ใกล้เคียงรุ่นพี่อย่าง อควาแมน หรือไม่ ถ้า Shazam!ประสบความสำเร็จ ก็เป็นไปได้สูงว่าเราน่า จะได้เห็น Shazam และ Aquaman โคจรมาเจอกัน เพราะท้ายเรื่องเราก็เห็นซูเปอร์แมนโผล่มาเซอร์ไพรส์เราไปแล้ว
ตัวอย่างภาพยนตร์