ถึงวันนี้แฟรนไชส์หนัง Fast & Furious ทั้ง 8 ภาค ทำเงินรวมกันไปแล้วกว่า 5 พันล้านเหรียญ ซึ่งตัวเลขในอนาคตเมื่อรวมภาค 9 ที่มีกำหนดฉายใน พฤษภาคม 2020 และภาค 10 ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายที่ยังไม่วางกำหนดฉาย หนังน่าจะรายได้รวมทะลุ 7 พันล้านเหรียญเป็นอย่างแน่นอน แม้ว่าทางค่ายยูนิเวอร์แซลจะปิดฉาก Fast ลงในภาคที่ 10 แต่หนังในจักรวาล Fast จะไม่ยุติลงแค่นั้น เพื่อเป็นการขยายจักรวาล Fast ออกไป ทางค่ายจึงต้องประเดิมโพรเจกต์ภาคแยกกับหนัง Hobbs & Shaw ที่ดึงเอาคู่กัด ลุค ฮอบส์ อดีตเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่รักษาความมั่นคงทางการทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ (ชื่อตำแหน่งยาวมาก) มาปฏิบัติการพิเศษร่วมกับ เดคการ์ด ชอว์ นักฆ่ามืออาชีพที่เคยเป็นศัตรูอันดับ 1 ของแก๊งพระเอกนักซิ่ง หนังจะเปิดตัวในอเมริกาวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม นี้ ส่วนในบ้านเราจะได้ดูกันก่อนในวันที่ 1 สิงหาคม

       บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์ของหนัง Hobbs & Shaw ว่าน่าจะกวาดเงินคนดูชาวอเมริกันในช่วงสุดสัปดาห์แรก 2 - 4 สิงหาคม ไปได้ประมาณ 55 - 65 ล้านเหรียญ ดูเหมือนเป็นตัวเลขรายได้มหาศาล แต่เมื่อเทียบกับตัวเลขเปิดตัวของหนังภาคต่ออย่างเป็นทางการแล้ว จะต่างกันอยู่มาก ตอนนี้แชมป์รายได้ของแฟรนไชส์เป็นของ Furious 7 ที่เปิดด้วยตัวเลขพุ่งทะยานไปถึง 147 million ตัวเลขรวม 1,516 ล้านเหรียญ รองลงมาเป็น The Fate of the Furious เปิดตัวที่ 98 ล้านเหรียญ รายได้รวม 1,236 ล้านเหรียญ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หนังภาคแยกจะไม่ได้มีแรงดึงดูดหรือทำรายได้เท่ากับหนังภาคต่อที่มีทีมนักแสดงมาครบชุดกว่า และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ Hobbs & Shaw เข้าฉายต่อจาก The Lion King วันที่ 19 ก.ค. และ  Once Upon a Time in Hollywood หนังของผู้กำกับเควนติน ตารันติโน ที่เข้าฉายวันที่ 26 ก.ค. ทั้งคู่ก็เป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่มีต้องได้ส่วนแบ่งโรงฉายไปมากพอดู ถึงแม้จะเข้าฉายในสัปดาห์ก่อนหน้า ก็น่าจะมีแรงดึงดูดในระดับปากต่อปากที่ยังสามารถเรียกคนดูได้เพิ่มในสัปดาห์ที่ 2 และ 3

         ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงการวิเคราะห์การเปิดตัวภายในสหรัฐฯเท่านั้น ต้องไม่ลืมว่า Hobbs & Shaw จะเปิดตัวพร้อมกันใน 64 ประเทศ และชื่อของ ดเวย์น จอห์นสัน ก็เป็นดาราแม่เหล็กที่เรียกคนดูได้ดีในตลาดต่างประเทศเช่นกัน บท ลุค ฮอบส์ ของเขาเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนๆ Fast ตั้งแต่เปิดตัวมาในภาค 5 และการแยกออกมาแท็กทีกับเจสัน สตาแธม ดาราแอ็กชันระดับแม่เหล็กอีกคนหนึ่งของวงการ บวกกับตัวอย่างหนังเวอร์ชันล่าสุดก็อัดฉากระเบิดระเบ้อยั่วน้ำลายคนดูสายแอ็กชันแบบจริงจัง ถ้าพิจารณาจากความสำเร็จในภาคก่อนหน้า The Fate of the Furious ทำรายได้ทั่วโลกในสุดสัปดาห์แรกแบบถล่มทลายถึง 541.9 ล้านเหรียญ ในจำนวนนี้เป็นรายได้เฉพาะประเทศจีนมากถึง 185 ล้านเหรียญ ก็มีสิทธิ์ว่าถ้ารวมตัวเลขรายได้จากทั่วโลกแล้ว Hobbs & Shaw ไม่น่าจะน้อยหน้ากว่าหนังในตระกูล Fast ภาคก่อนหน้าสักเท่าใดนัก

        แม้ว่าทางยูนิเวอร์แซลจะเลือกวันเปิดตัวของ Hobbs & Shaw ที่ใกล้กับคู่แข่งน่ากลัวอย่าง The Lion King และ Once Upon a Time in Hollywood แต่ต้องไม่ลืมว่า วันนี้ก็มีข้อได้เปรียบอย่างมากเช่นกัน เพราะการเลือกเปิดตัวในช่วงนี้ Hobbs & Shaw จะเป็นหนังฟอร์มใหญ่เรื่องสุดท้ายที่ปิดฉากฤดูหนังซัมเมอร์ปี 2019 นั่นหมายความว่าจะไม่มีหนังฟอร์มใหญ่ที่ศักยภาพทัดเทียมเข้าฉายต่อจากนี้อีกแล้ว นั่นจะทำให้ Hobbs & Shaw ได้ยืนโรงฉายยาวๆ แบบไร้คู่แข่ง เพราะกว่าจะถึงหนังเบอร์ใหญ่ก็ต้องรอไปถึงธันวาคม นู่นเลย ที่จะมี Star Wars: The Rise of Skywalker ภาคปิดฉากตำนานสตาร์วอรส์ ที่เป็นโปรแกรมใหญ่รับสิ้นปี 2019 นี้

        Fast and Furious Presents Hobbs and Shaw นำแสดงโดย ดเวย์น จอห์นสัน และ เจสัน สตาแธม สมทบด้วยสุดสวย เวาเนสซา เคอร์บี้ จาก Mission Impossible : FallOut และ ไอดริส เอลบา มารับบทวายร้ายตัวแสบประจำภาคนี้ หนังกำกับโดย เดวิด ลีตช์  ผู้กำกับร่วมจาก John Wick 1 และ Deadpool 2 ที่เชื่อมือได้กับหนังแอ็กชันที่เป็นแนวถนัดของเขา และ Hobbs And Shaw คือหนังแอ็กชันที่เททุนสร้างมาให้เขาได้ละเลงมันส์มือถึง 200 ล้านเหรียญ นับเป็นหนังฟอร์มใหญ่สุดที่เดวิด เคยกำกับมา หนังยังได้คริส มอร์แกน มือเขียนบทเจ้าเดิมที่รับเหมาเขียนบทให้กับแฟรนไชส์ Fast มาตั้งแต่ภาค 3

ตัวอย่างภาพยนตร์