"เพนนีไวซ์จะเปลี่ยนไปจากเดิม" คำบอกเล่าจากบิล สการ์การ์ด ผู้สวมบทเพนนีไวซ์ใน IT : Chapter 2
"เพนนีไวซ์"ปีศาจลึกลับที่ไม่มีใครรู้ที่มาของมัน แต่ที่รู้กันตามตำนานคือ เพนนีไวซ์ จะออกมาอาละวาดชาวเมืองเดอร์รี, รัฐเมน ทุกๆ 27 ปี เพนนีไวซ์มักจะปรากฏกายในภาพลักษณ์ตัวตลกที่เราคุ้นเคย หน้าขาว จมูกแดง ปากแดง และถือลูกโป่งสีแดง ด้วยภาพลักษณ์นี้จะทำให้มันเข้าหาเด็ก ๆ ได้อย่างสนิทใจ แล้วก็จะลักพาตัวเด็กไปเป็นอาหาร ทำให้ชาวบ้านเดอร์รี ต่างขวัญผวาเมื่อถึงรอบการปรากฏตัวของเพนนีไวซ์ แต่กลับมีกลุ่มเด็กที่ขนานนามแก๊งตัวเองว่า "ลูสเซอร์คลับ" กลับไม่สะทกสะท้านกับกิตติศัพท์ของเพนนีไวซ์และรวมตัวกันกำจัดเพนนีไวซ์ได้สำเร็จ นั่นคือเหตุการณ์ใน IT : Chapter 2 เมื่อปี 2017
ผ่านไป 27 ถึงวาระรอบใหม่ที่เพนนีไวซ์กลับมาอาละวาดอีกครั้ง ในวันนี้เหล่า "ลูสเซอร์คลับ" ต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่วัยปลาย 30 กันหมดแล้ว พวกเขาและเธอต้องกลับมาจัดการกับเพนนีไวซ์กันอีกครั้ง และครั้งนี้เพนนีไวซ์ที่เคยพ่ายแพ้ให้กับลูสเซอร์คลับมาแล้วในอดีต มันกลับมาพร้อมกับความแค้นต่อเหล่าลูสเซอร์คลับ และรอบนี้มันจะไม่ยอมพ่ายแพ้อีกครั้งอย่างแน่นอน
บิล สการ์สการ์ด ผู้รับบท เพนนีไวซ์
บิล สการ์สการ์ด นักแสดงหนุ่มผู้รับบทเป็น เพนนีไวซ์ ในภาคแรกกลับมารับหน้าที่เดิม หลังจากที่ได้รับเสียงชื่นชมไปอย่างมากในภาคแรก ว่าเพราะความสามารถในการแสดงของเขายกระดับความน่ากลัวของเพนนีไวซ์ขึ้นได้อีกมาก, บิล ได้พูดถึงเพนนีไวซ์ใน IT : Chapter 2 ว่าในภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากภาคแรก
"เพนนีไวซ์สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปเป็นเช่นไรก็ได้ตามความพอใจ ขึ้นอยู่กับเหยื่อแต่ละรายที่เป็นเป้าหมายของมัน และในรอบนี้ผมว่าเขาเปลี่ยนไป"
ในคำจำกัดความว่า "เปลี่ยน" ของบิล นั้นไม่ได้หมายถึงภาพลักษณ์ภายนอกที่เราจะสังเกตเห็นได้ทันที แต่บิลหมายถึงอารมณ์ความรู้สึกภายในของเพนนีไวซ์ ที่เขาได้รู้สัมผัสความรู้สึกกลัวเป็นครั้งแรกจากการโดนลูสเซอร์คลับรุมลงทัณฑ์ในภาคแรก
"มันเป็นหัวใจสำคัญจากภาคแรกเลย เมื่อเขาได้รู้จักความกลัวเป็นครั้งแรก ถ้าใครจำได้ ประโยคสุดท้ายที่เพนนีไวซ์เอ่ยขึ้นมาคือ............กลัว เขาเพิ่งสัมผัสความกลัวเป็นครั้งแรกก็เลยรู้สึก "ช็อก" กับความรู้สึกนี้ กลายเป็นความสับสนและประหลาดใจกับความรู้สึกแปลกใหม่นี้ แบบว่า เฮ้ยนี้ฉันกำลังเป็นอะไรเนี่ย"
เพนนีไวซ์แฝงกายบนโลกมนุษย์มานานนับศตวรรษ ไม่เคยสักครั้งที่มันจะต้องหวาดกลัวกับอะไร แต่เมื่อได้เผชิญกับลูสเซอร์คลับที่สามารถทะลุทะลวงถึงสภาวะอารมณ์ของมันได้ เมื่อมันได้รู้สัมผัสความกลัวด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก เพนนีไวซ์ก็เอาความกลัวนี้มายกระดับความสยองเมื่อมันจู่โจมบรรดาเหยื่อของมัน
"เพนนีไวซ์สนุกกับการทำให้เหยื่อตื่นกลัว มันจำเพาะเจาะจงกับความกลัวเป็นหลัก แต่ตัวมันเองไม่เคยรู้สึกกลัวมาก่อนเลยไง พอถึงตอนนี้มันได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้วว่าเหยื่อเคยรู้สึกอย่างไร จากจุดนี้ล่ะก็จะยกระดับต่อยอดไปในภาค 2"
จากท้ายภาคที่แล้ว เพนนีไวซ์ได้เรียนรู้ด้านอ่อนแอของตัวเอง สำนึกได้ว่ามันไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่มันคิดตลอดมา พอครั้งนี้ก็เลยแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น ถ้าใครจะลุกขึ้นมาต่อกรกับมันจะต้องสัมผัสความกลัวที่มันเคยประสบมาหลายเท่า
"เพนนีไวซ์ในภาคนี้จะมาพร้อมความชั่วร้ายมากกว่าเดิม เพราะมันคั่งแค้นไปด้วยความรู้สึกโกรธและเกลียดเหล่าลูสเซอร์คลับ ที่รอบนี้กลับมาเผชิญหน้ามันอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ และเพนนีไวซ์ก็จะตามชำระแค้นกับเหล่าลูสเซอร์คลับ"
ภาคแรกก็ว่าน่ากลัวแล้ว ทำเอาหลายๆ คนหวาดผวาไปกับภาพลักษณ์สยดสยองของเพนนีไวซ์ แล้วภาคนี้นักแสดงผู้รับบทเพนนีไวซ์ออกมายืนยันเองแบบนี้ว่า เพนนีไวซ์ จะน่ากลัวและชั่วร้ายกว่าเดิมมากขึ้นไปอีก เตรียมพบกับความสยองรอบใหม่พร้อมกันบนจอภาพยนตร์ 5 กันยายน นี้ อดใจรออีกนิดเดียวครับ
ตัวอย่างภาพยนตร์