ฉะนั้นบทความนี้จะเขียนแนะนำ Freaks ให้คุณรู้จักว่าหนังเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร โดยเปิดเผยเนื้อหาให้น้อยที่สุดครับ Freaks เป็นหนังไซไฟฟอร์มเล็ก กำกับและเขียนบทโดย แซค ลิปโวสกี้ และ อดัม บี.สไตน์ คู่หูที่กำกับหนังร่วมกันมายาวนาน และใน Freaks นี้พวกเขาเล่าว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Room มาผสมรวมกับ 10 Cloverfield Lane แล้วเพิ่มความน่าสะพรึง นำเสนออกมาเป็นไซไฟ-แนวจิตวิทยา

       พลอตคร่าวๆ หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับ หนูน้อย "โคลอี" วัย 7 ขวบ เธออาศัยอยู่กับคุณพ่อเฮนรี่ ในกระท่อมสภาพซอมซ่อ ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้คุณพ่อจอมวิตกจริตต้องขังโคลอีไว้ในห้องปิดทึบตลอดเวลาไม่ให้เธอออกไปไหน ประตูถูกล็อก หน้าต่างทุกบานเอาผ้าและหนังสือพิมพ์มาปิดไม่ให้เธอได้เห็นแม้แต่แสงแดด ปฏิกิริยาที่พ่อทำกับลูกสาว รวมไปถึงบทสนทนาระหว่างคู่นี้ยิ่งชวนให้คนดูสงสัยมากขึ้น ว่าภายนอกกระท่อมนี้มันมีอะไรอยู่หรือ พ่อถึงต้องปกป้องด้วยการกักขังลูกสาวไว้แบบนี้ กิจวัตรประจำวันระหว่างพ่อลูก คือการที่คุณพ่อคอยฝึกสอนให้ลูกสาวแอบอ้างตัวตนสมมติถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นแล้วต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกกระท่อม แล้วก็ย้ำเตือนโคลอีเสมอว่าโลกภายนอกอันตราย มีผู้คนคอยจ้องจะเอาชีวิต 2 เราพ่อลูกอยู่ตลอดเวลา หนังกำหนดให้คนดูอยู่ในสภาพมืดมนเช่นเดียวกับตัวโคลอี คือทุกอย่างรอบข้างล้วนเป็นปริศนาหมด ยิ่งหนังเดินหน้าไป ก็ยิ่งกระตุ้นความใคร่รู้มากขึ้น

        วันเวลาผ่านไป สถานการณ์ภายในกระท่อมยิ่งตึงเครียดมากขึ้น เมื่อเฮนรี่เริ่มคุ้มคลั่งในบางขณะ กฏระเบียบในการควบคุมโคลอียิ่งเข้มงวดมากขึ้น และบางครั้งเขาก็สติแตกใส่ลูกสาว ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกกังวลกับสวัสดิภาพของเธอที่ต้องอยู่กับพ่อที่มีอาการวิตกจริตขนาดนี้ แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีอำนาจเหนือความกลัวอยู่เสมอ เมื่อโอกาสมาถึง เธอเจอช่องทางหนีออกจากกระท่อมได้เพื่อไปซื้อไอศกรีมรถเข็นที่ผ่านมาหน้าบ้านเธอเป็นประจำ ลุงขายไอศกรีมดูใจดี และให้ความสนใจโคลอีเป็นพิเศษ แล้วก็มาถึงจุดสำคัญเมื่อลุงบอกว่า เขารู้ความลับของเฮนรี่ พ่อของเธอ และเธอตกอยู่ในอันตราย ลุงชักชวนให้โคลอีหนีไปกับเขา แล้วหนังก็พาเรามาถึงจุดพลิกผันที่สุดของเรื่องราว คนดูก็ตกอยู่ในสภาพสับสนไม่ต่างกับโคลอี ตกลงใครพูดความจริง จากนี้ไปเธอจะไว้ใจพ่อได้อีกหรือไม่ ทุกคนดูมีความลับซุกซ่อนไว้กันหมด เล่าไว้เท่านี้พอ ที่เหลือไว้ไปลุ้นกันในโรงภาพยนตร์ แค่นี้ก็น่าจะพอรู้สึกได้แล้วว่า หนังเต็มไปด้วยปริศนาที่ชวนให้เรากระหายใคร่รู้คำตอบมากมายแล้ว

         นอกจากเส้นเรื่องหลักของโคลอีแล้ว หนังยังหยอดปริศนาเรี่ยไร่รายทางกระตุ้นความใคร่รู้จากคนดูมากขึ้นอีกว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกภายนอกกระท่อม บนจอทีวีก็เสนอข่าว กลุ่มโดรนโจมตีเมืองซีแอตเติล , การล่มสลายของเมืองดัลลัส , เท็กซัส ทำไมบางครั้งเฮนรี่ถึงมีเลือดไหลออกมาจากตา , ตัวตนจริงๆ ของลุงขายไอศกรีมเป็นใคร แล้วเขาต้องการอะไรจากโคลอี ไม่แค่นั้นบางทีก็มีผีผู้หญิงโผล่ออกมาจากห้องใต้หลังคาอีกด้วย เธอเป็นใคร เธอต้องการสื่อสารอะไร? ทั้งหมดทั้งหลายที่ทำให้หนังเดินหน้าไปด้วยปริศนาน่าติดตามขนาดนี้ ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ แซค ลิปโวสกี และ อดัม บี.สไตน์ คู่หูที่ควบทั้งหน้าที่กำกับและเขียนบทเอง และระดมสาดปริศนาใส่คนดูแบบไม่ยั้ง ทำให้หนังทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ทุกนาที แล้วก็ค่อยๆ คลี่คลายปริศนาไปทีละนิด แต่ก็ดึงปริศนาเด็ดเก็บไว้จนท้ายเรื่อง ถึงตรงนี้จึงต้องเน้นย้ำกันอีกครั้งว่า Freaks คือหนังไซไฟ-ลึกลับ ที่เรายิ่งรู้เรื่องราวน้อยลง ก็จะยิ่งทำให้สนุกกับหนังได้มากขึ้น ความสนุกของหนังก็คือการได้เกาะตามไปกับเนื้อหาที่เต็มไปด้วยปริศนาที่ทยอยคลี่คลายมาเรื่อยๆ ทำให้เราได้ดูไปคาดเดาไปจนนาทีสุดท้ายของหนัง

แซค ลิปโวสกี และ อดัม บี.สไตน์ คู่หูผู้กำกับ-เขียนบท

       อีกเรื่องที่น่าชื่นชมก็คือ คู่หู แซค และ อดัม ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้ Freaks จะเป็นหนังทุนต่ำ แต่พวกเขาก็ทำให้หนังมีคุณภาพพอฟัดพอเหวี่ยงกับหนังทุนหนาได้อย่างสบาย และ Freaks น่าจะเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งให้ แซค และ อดัม ได้ก้าวกระโดดไปทำหนังทุนสูงในผลงานถัดไป ใน Freaks เราจะไม่ได้เห็นโลเกชันมากมาย หนังถ่ายทำอยู่เพียงไม่กี่ที่ ใช้นักแสดงไม่มาก ใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์เพียงน้อยนิด

ไปพิสูจน์ความยอดเยี่ยม และค้นหาปริศนาดำมืดร่วมกับโคลอี ใน Freaks คนกลายพันธุ์ พร้อมกัน 26 กันยายน นี้

ตัวอย่างภาพยนตร์