เรเน เซลเวเกอร์ เล่าเบื้องหลังการแปลงโฉมเป็น จูดี้ การ์แลนด์ ในหนัง Judy

Movie News28 ตุลาคม 2562

       เรเน เซลเวเกอร์ นักแสดงสาวมากฝีมือ ที่แจ้งเกิดจากบท โดโรธี บอยด์ จากหนัง Jerry Maguire ปี 1996 แล้วก็เขยิบสู่ตำแหน่งนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูดในไตรภาค Bridget Jones's Diary แม้ว่าภาพลักษณ์ของเธอจะเป็นนักแสดงสายคอมเมดี้ อารมณ์ดี แต่เธอก็พยายามพิสูจน์ว่าเธอคือนักแสดงคุณภาพคนหนึ่งของวงการ ด้วยการโชว์ฝีมือในผลงานหลายๆ เรื่อง เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ รางวัลนักแสดงนำหญิงมาแล้ว 2 ครั้งใน Bridget Jones's Diary (2001) และ Chicago (2002) แต่ก็มาสำเร็จใน Cold Mountain (2003) ด้วยการคว้าออสการ์สาขานักแสดงสมทบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม



       มาปีนี้ ในวัย 50 ปี เรเน เซลเวเกอร์ ขอประกาศศักยภาพฝีมือการแสดงให้ประจักษ์อีกครั้งใน Judy หนังชีวประวัติของ จูดี การ์แลนด์ อดีตดาวค้างฟ้าของฮอลลีวูด ผู้จากไปเมื่อปี 1969 เป็นปีเดียวกับที่ เรเน เซลเวเกอร์ เกิดพอดี หนังออกฉายในอเมริกาไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้ ได้เสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ชมและนักวิจารณ์ ได้คะแนนในเว็บ Rottentomatoes สูงถึง 83% และ IMDB ที่ 7.2 นับว่าเป็นคะแนนที่สูงมากจาก 2 เว็บไซต์ใหญ่ที่ชี้ชะตาหนังฮอลลีวูดในยุคนี้ ถึงตอนนี้หนังกวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 27 ล้านเหรียญ แม้ตัวเลขจะดูไม่สูงมาก แต่สำหรับหนังสายรางวัลที่เน้นขายการแสดงของเรเน เซลเวเกอร์ แบบนี้ไม่ได้ใช้ทุนสร้างมากอยู่แล้ว ตัวเลขระดับนี้ก็น่าจะได้กำไรพอให้หายใจหายคอได้บ้างแล้วล่ะ รอดูว่าถ้ามีชื่อของเรเน เซลเวเกอร์ ได้เข้าชิงเวทีใหญ่ปลายปีนี้ หนังอาจจะกลับมาเข้าโรงฉาย แล้วกวาดรายได้อีกรอบก็เป็นได้


เรเน เซลเวเกอร์ ในรายการ Good Morning America


     ในระหว่างที่เดินสายโปรโมต Judy อยู่นี้ เรเน เซลเวเกอร์ ได้รับเชิญไปออกรายการทอล์กโชว์ชื่อดัง Good Morning America ซึ่งเธอได้เปิดเผยความรู้สึกถึงการได้รับเกียรติให้มารับบทเป็นตัวแทนนักแสดงที่เป็นที่รักของคนอเมริกันนี้ว่า

"มันเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับฉัน กับการที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังที่มีความหมายอย่างมากต่อคนทั่วไปแบบนี้ มันพิเศษสุดจริง ๆ ฉันหมายถึงว่า คุณจะไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว"

เนื้อหาของหนังย้อนไปเล่าเหตุการณ์ในปี 1968 ให้ผู้ชมได้เข้าใจ เห็นใจกับอุปสรรคต่างๆ นานาที่เธอต้องเผชิญในช่วงปีสุดท้ายของ จูดี ก่อนที่เธอจะจบชีวิตด้วยเหตุเสพยาเกินขนาดในปีถัดไป ทิ้งตำแหน่งดาวค้างฟ้าของฮอลลีวูดให้อยู่ในความทรงจำผู้ชมตลอดไป ตลอดอาชีพการแสดงของเธอ จูดี ได้ฝากผลงานคลาสสิกไว้มากมาย เช่น The Wizard of Oz (1939) , Meet Me in St. Louis (1944) , Easter Parade (1948) , A Star Is Born (1954)



      เรเน เซลเวเกอร์ บอกว่าหนัง Judy นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เผยแพร่ให้ผู้ชมได้รับทราบชีวิตอีกด้านหนึ่งของ จูดี การ์แลนด์ จากมุมมองที่แตกต่างจากที่ผู้คนได้เคยรับรู้รับฟังมาโดยตลอด

"สำหรับชีวิตของนักแสดงคนหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิตในฐานะคนของประชาชนมาช่วงใหญ่ๆ ของชีวิต จากแง่มุมที่หนังถ่ายทอดออกมานี้ จะทำให้เราได้เข้าใจชีวิตของเธอมากขึ้นผ่านเสียงบรรยายแทนตัวจูดี การ์แลนด์ เอง และภาพชีวิตช่วงหนึ่งของเธอ"

การที่หนังเจาะลึกช่วงมรสุมชีวิตในปีสุดท้ายของเธอนั้น เท่ากับเป็นการเปิดเผยเรื่องราวที่ผู้คนในวงกว้างไม่เคยได้รับรู้มาก่อนผ่านหนัง Judy

"ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันทำให้เรื่องราวช่วงนี้ของจูดีนั้นถูกปกคลุมไปด้วยโศกนาฏกรรมจากการเสียชีวิตของเธอ แต่ในหนัง Judy คุณจะได้เป็นประจักษ์พยานว่าเธอต้องเผชิญกับปัญหาอะไรบ้างในช่วงนั้นของชีวิต มันจะล้มล้างสิ่งที่พวกคุณอาจเคยได้รับรู้ด้านลบเกี่ยวกับตัวเธอมาทั้งหมด คุณจะได้เห็นภาพพจน์ความเป็นนักสู้ของเธอ" เรเน ขยายความเพิ่มเติมถึงเนื้อหาใน Judy


เปรียบเทียบความเหมือนระหว่าง เรเน เซลเวกอร์ ทางซ้าย กับ จูดี การ์แลนด์ ตัวจริง


      ในการเตรียมพร้อมที่จะรับบทเป็น จูดี การ์แลนด์ นั้นเรเน ก็ต้องเครียมตัวล่วงหน้าหลายเดือน เธอต้องใช้เวลาช่วงนี้หมดไปกับการคลุกคลีอยู่กับช่างผม ช่างแต่งหน้า เพื่อพยายามปรับลุคและเรือนร่างให้ใกล้เคียงกับ จูดี การ์แลนด์ ให้ได้มากที่สุด กว่าจะผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เธอสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ของ จูดี การ์แลนด์ มาได้สำเร็จ ทั้งเธอและทีมงานต้องผ่านกระบวนการลองผิดลองถูกมากมาย เรเน ถึงกับขนานนามความสำเร็จนี้ว่า "แนวทางแห่งการค้นพบ"

แต่เมื่อกระบวนการจำลองภาพลักษณ์ของจูดี การ์แลนด์ ได้สำเร็จ ผู้กำกับรูเพิร์ต กูลด์ กลับไม่เห็นชอบด้วยกับภาพลักษณ์ที่เห็น อ้าว! ไหงงั้น

"กูลด์ ผู้กำกับ กลับไม่อยากจะให้เราให้ความสำคัญกับจุดนี้มากนัก เพราะเขาไม่อยากให้ตัวฉันถูกห่อหุ้มไปด้วยชิ้นส่วนพลาสติก มันจะกลายเป็นอุปสรรคในการที่ฉันจะต้องถ่ายทอดหัวใจหลักของเรื่องราวออกสู่คนดูในเวลา 1ชั่วโมงครึ่ง"


ผู้กำกับรูเพิร์ต โกลด์ กับ เรเน เซลเวเกอร์


ผู้กำกับ รูเพิร์ต กูลด์ ขอขยายความเห็นของเขาในส่วนนี้ว่า

"ผมไม่อยากให้ตัวตนของเรเนนั้นหายไปจากหนัง ผมยังอยากจะเชื่อมโยงกับตัวตนเรเน ในภาพลักษณ์ของจูดีได้อยู่บ้าง ผมไม่ได้ต้องการให้เรเนกลายเป็นแค่หุ่นขี้ผึ้งตัวหนึ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบจูดี การ์แลนด์ อะไรทำนองนั้น"

แม้ว่าทีมงานจะลดทอนความพยายามปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเรเน ให้เหมือนกับจูดี การ์แลนด์ อย่างที่เคยพยายามในทีแรก แต่ก็ยังต้องคงจมูกปลอมไว้บนหน้าของเรเน เซลเวเกอร์ แต่แล้วเจ้าจมูกนี่ก็ก่อปัญหาในตอนถ่ายทำขึ้นมา

"ในฉากจูบ เจ้าจมูกปลอมมันก็เริ่มไม่อยู่ในที่ที่มันควรอยู่แล้วสิ ถึงแม้มันอยู่บนหน้าฉัน แต่มันเริ่มอยากจะมีเส้นทางชีวิตของมันเองซะงั้น" เรเน เล่าด้วยเสียงหัวเราะ



   กลับมาที่เรื่องการแสดง ที่นับว่าบท จูดี การ์แลนด์ คือบทบาทสำคัญบทหนึ่งในชีวิตการแสดงของเรเน เซลเวเกอร์ นับเป็นความท้าทายที่เธอจะต้องแสดงเป็นนักแสดงระดับตำนานผู้เป็นที่รักของคนดูทั่วโลก โดยเฉพาะคนอเมริกัน

"ฉันพยายามไม่คิดว่านี่คือบทบาทการแสดง ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามันคือการค้นพบ ฉันทำงานนี้แบบว่าปล่อยให้ตัวเองจมหายไปกับตำนานอันยิ่งใหญ่ของโลกภาพยนตร์ จูดีที่คนดูมากมายรักใคร่ในตัวเธอและรู้สึกผูกพันกับเธอ การทำงานนี้มันเหมือนกับได้ร่วมทดลองไปด้วยกัน ทั้งตัวฉันและทีมงานทั้งหมด พวกเราเหมือนกับช่วยกันทำเหมืองแล้วก็เจอสมบัติ ทีละชิ้น ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ได้เจอความลับที่ซุกซ่อนไว้ ได้เจอหัวใจสำคัญที่เปรียบเสมือนมนต์วิเศษที่ช่วยให้ฉันเข้าถึงตัวตนของเธอได้อย่างลึกซึ้ง"



         แล้วก็มาถึงคำถามสำคัญเมื่อพิธีการถามว่า ลองแทนตัวเองเป็นจูดี การ์แลนด์ ซิ ถ้าเธอได้มาเห็น เรเน เซลเวเกอร์ มาแสดงเป็นตัวเธอ จูดี จะรู้สึกอย่างไร

"ถ้าจูดียังอยู่นะ ฉันหวังว่าเธอจะสัมผัสได้ถึงความรัก ความนับถือ ที่พวกเรามีต่อตัวเธอ และมันยังเป็นแรงผลักดันให้พวกเราพยายามทำหนังเรื่องนี้ให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งทุกคนได้แสดงออกให้เห็นได้ชัดเจนในระหว่างที่ทำงานเรื่องนี้ ทุกคนต่างมุ่งมั่นในหน้าที่ตัวเองอย่างดีที่สุด แทนการแสดงออกถึงความเคารพรักที่มีต่อจูดี"

ถึงตรงนี้ผู้กำกับ รูเพิร์ต กูลด์ ขอขยายความเพิ่มเติมถึงการแสดงของเรเน เซลเวเกอร์ ว่า

"ผมเห็นถึงความมุ่งมั่นของเธอ พูดกันตรงๆ นะ ต่อให้บทมันยากขนาดไหน ก็เอาชนะความสามารถที่ล้นเหลือของเรเนไม่ได้ เธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถอย่างเหลือเชื่อ แล้วก็เป็นคนมีอารมณ์ขัน พวกเราหลายคนต่างก็คุ้นเคยกับความเป็นคนใจสู้ของเธอดีอยู่แล้ว ลองเปรียบเทียบกับชีวิตส่วนตัวของเธอ เรเน ผ่านชีวิตคู่ที่ล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้ง ผ่านช่วงเวลาลำบากมามาก แต่เราก็เห็นแล้วว่าเธอสามารถผ่านมันมาได้อย่างแข็งแกร่ง และนั่นแหละจุดที่เรารู้สึกผูกพันและยอมรับนับถือในตัวเธอ"



          ไปร่วมกันพิสูจน์ความสามารถของเรเน เซลเวเกอร์ ในการถ่ายทอดตัวตนของ จูดี การ์แลนด์ นักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ของโลกฮอลลีวูด ผ่านการแสดงอันเยี่ยมยอดที่นักวิจารณ์ต่างชื่นชม พร้อมกัน 31 ตุลาคม นี้ แล้วร่วมเป็นกำลังใจให้เธอได้คว้าออสการ์นักแสดงนำหญิงให้สำเร็จได้สักครั้ง

 

ตัวอย่างภาพยนตร์