รู้หรือไม่...? "The Shining" จุดเริ่มต้นเรื่องราวก่อนมาเป็น "Doctor Sleep" ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ "สตีเฟ่น คิง"

Movie News8 พฤศจิกายน 2562

HIGHLIGHT

  • "Doctor Sleep" สานต่อเรื่องราวของ "แดนนี่ ทอร์แรนซ์" (ยวน แมคเกรเกอร์) ในช่วง 40 ปีต่อมา หลังจากที่เขาได้พบกับความหลอนที่ Overlook Hotel ใน The Shining เขาต้องต่อสู้หาทางสงบสติตัวเองให้ได้ แต่ความสงบนั้นพังทลายลงเมื่อเขาได้พบกับ "แอบรา" (ไคเลห์ เคอร์แรน) เด็กวัยรุ่นที่มีความกล้าและมีพลังวิเศษที่เรียกกันว่า "ไชน์"
     
  • "The Shining" ที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1977 ซึ่งหนังสือมียอดขายมากกว่า 1 ล้านก็อปปี้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวการต่อสู้ของตัวผู้แต่งเอง ในช่วงกลางดึกที่น่ากลัวเมื่อคิงต้องอยู่ในห้องหมายเลข 217 ในโรงแรมสแตนลีย์ เมืองโคโลราโด
     
  • The Shining ได้รับคำชมในวงกว้างว่าเป็นหนังสยองยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งตลอดกาล และเป็นตัวอย่างหนึ่งของการผสมผสานระหว่างถ้อยคำของผู้แต่งกับจินตนาการของผู้สร้างภาพยนตร์
     
  • "Doctor Sleep ได้ย้อนกลับไปหาหลายเรื่องราว ตั้งแต่ที่นิยายเรื่อง The Shining ไม่มีการสร้างเป็นหนัง ความประทับใจแรกของผมคือ 'ผมรักเรื่องนี้จัง'" - ไมค์ ฟลานาแกน ผู้กำกับ Doctor Sleep

 


           ภาพยนตร์เรื่อง "Doctor Sleep" สานต่อเรื่องราวของ "แดนนี่ ทอร์แรนซ์" (ยวน แมคเกรเกอร์) ในช่วง 40 ปีต่อมา หลังจากที่เขาได้พบกับความหลอนที่ Overlook Hotel ใน The Shining เขาต้องต่อสู้หาทางสงบสติตัวเองให้ได้ แต่ความสงบนั้นพังทลายลงเมื่อเขาได้พบกับ "แอบรา" (ไคเลห์ เคอร์แรน) เด็กวัยรุ่นที่มีความกล้าและมีพลังวิเศษที่เรียกกันว่า "ไชน์"  แอบรารับรู้ได้เลยว่าแดนแบ่งปันพลังนั้นกับเธอได้ เธอจึงตามหาเขาเพื่อให้เขามาช่วยต่อสู้กับ "โรส เดอะ แฮท" (รีเบคก้า เฟอร์กูสัน) ซึ่งจะมาดูดพลังแห่งความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย



         ย้อนกลับไปที่เรื่องราวต้นฉบับอย่างเรื่อง "The Shining" ที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1977 แทบจะไม่เคยเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวที่อยู่ในยุคร่วมสมัย ซึ่งมีความน่ากลัวหรือดูเหมือนกับครอบครัวทอร์แรนซ์ที่ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ และลูก ตัวละครสำคัญในนิยายตอนที่ 3 ของ "สตีเฟ่น คิง" ซึ่งหนังสือมียอดขายมากกว่า 1 ล้านก็อปปี้ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวการต่อสู้ของตัวผู้แต่งเอง ในช่วงกลางดึกที่น่ากลัวเมื่อคิงต้องอยู่ในห้องหมายเลข 217 ในโรงแรมสแตนลีย์ เมืองโคโลราโด เรื่องราวของ "แจ็ค เว็นดี้" และ "แดนนี่  ทอร์แรนซ์" เป็นผลงานหนึ่งที่มีความเป็นส่วนตัวของคิงมาก ซึ่งไม่ได้มีความน่ากลัวจากสัตว์ประหลาดที่อยู่รอบตัวเรา แต่เป็นปีศาจในชีวิตจริงที่ฝังลึกอยู่ในตัวพวกเราเองต่างหาก



       36 ปีต่อมา คิงได้ตีพิมพ์นิยายภาคต่อของเขาที่มีชื่อว่า "Doctor Sleep" ซึ่งเป็นเรื่องราวของ แดน ทอร์แรนซ์ แม้ว่าในเรื่องจะมีทั้งการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวความสยองและความน่าสงสัย แต่ The Shining ก็ได้พาผู้อ่านออกไปผจญภัยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายจากการติดยาเสพติด ส่วนเรื่อง Doctor Sleep จะพาพวกเขากลับไปหาหนทางสว่างอย่างมนุษย์ปกติ มีเรื่องราวของการยอมเสียสละและการไถ่บาปในสิ่งที่เคยทำไว้



      ผลงานดัดแปลงของ "สแตนลีย์ คูบริค" ปี 1980 เรื่อง The Shining ได้รับคำชมในวงกว้างว่าเป็นหนังสยองยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งตลอดกาล และเป็นตัวอย่างหนึ่งของการผสมผสานระหว่างถ้อยคำของผู้แต่งกับจินตนาการของผู้สร้างภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์ของคูบริคอาศัยความสร้างสรรค์จากองค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่ในเรื่อง รวมถึงบทสรุปของโรงแรมโอเวอร์ลุคไปพร้อมกับมุมมองต่างๆ ของตัวละครแจ็ค ทอร์แรนซ์ แต่ในท้ายที่สุดทั้งจินตนาการของคิงและคูบริคเกี่ยวกับแจ็คที่ต้องเสียความเป็นตัวของตัวเอง และกลับมามีชีวิตปกติหลังจากที่มีการใช้ยาเสพย์ติดทำให้ทั้งคู่ต่างเกิดความสร้างสรรค์อย่างโดดเด่นขึ้นมา



      ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นงานหนักที่ท้าทายความสามารถของผู้กำกับ "ไมค์ ฟลานาแกน" ในการสานต่อเรื่องราวความสยองสั่นประสาทใน Doctor Sleep ฟลานาแกนเล่าว่า "Doctor Sleep ได้ย้อนกลับไปหาหลายเรื่องราว ตั้งแต่ที่นิยายเรื่อง The Shining ไม่มีการสร้างเป็นหนัง ความประทับใจแรกของผมคือ 'ผมรักเรื่องนี้จัง' ผมรักตัวละครทั้ง 3 คือแดน แอบรา และโรส เดอะ แฮท ผมรักความแตกต่างระหว่าง The Shining กับ Doctor Sleep ที่มีทั้งเรื่องการติดยาและการกลับมาสู่สภาพปกติ เขาเก็บรายละเอียดหลายอย่างที่น่าสนใจตั้งแต่หนังสือเล่มแรก และทำให้มีพัฒนาการในรูปแบบที่มีความแปลกใหม่"

เตรียมพบกับภาคต่อความสยองขวัญสั่นประสาทของ The Shining หนังสยองยอดเยี่ยมตลอดกาลใน "Doctor Sleep" 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์