4 หนังแอ็คชั่นโกอินเตอร์ ของจา พนม ที่ควรชมก่อน Paradox

Movie News22 กันยายน 2560

                  เมื่อพูดถึงจา พนม สิ่งที่ผู้คนคิดถึงก็คือนักแสดงบู๊แอ็คชั่นสุดมันส์ เจ้าของฉายา ไม่ใช่สลิง ไม่ใช่ตัวแสดงแทน ซึ่งโด่งดังจากบทบาทในหนังเรื่ององค์บาก และต้มยำกุ้ง จนก้าวไกลได้ไปแสดงในหนังต่างประเทศและได้รับคำชื่นชมมากมาย และล่าสุดกับหนังที่กำลังจะเข้าฉายเรื่อง Paradox หนังฮ่องกงที่ยกกอง มาถ่ายทำในเมืองไทย โดยนำเสนอความรุนแรง อาชญกรรม และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบถึงเข้มข้น เรื่องราวเกี่ยวกับ ตำรวจฮ่องกงที่รบบทโดยกู่เทียนเล่อ ที่เดินทางมาไทย หลังจากลูกสาววัย 16 ปีของเขาหายตัวไปขณะมาเที่ยวพัทยา และก็ได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจไทย (จา พนม) และนักสืบชาวจีน (อู่เยี่ย) ซึ่งพบว่าเงื่อนงำการหายตัวไปของลูกสาวอาจเกี่ยวข้องกับแก๊งมาเฟียค้าอวัยวะมนุษย์ ซึ่งมีมาเฟียจากสหรัฐเป็นหัวหน้า ซึ่งเรื่องนี้ออกแบบและกำกับคิวบู๊โดย หงจินเป่า หนึ่งใน 3 เทพแห่งวงการบู๊แอ็คชั่นของหนังฮ่องกงรุ่นคลาสสิคที่ประกอบด้วย เฉินหลง หยวนเปียว และหงจินเป่า กำกับภาพยนตร์โดย วิลสัน ยิป จากหนังชุด Ip Man และ SPL: Sha Po Lang

วันนี้จึงขอนำเสนอ หนังแอ็คชั่น 4 เรื่องของจา พนม ที่ได้ไปโกอินตอร์ถึงต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนังฮ่องกงหรือ ฮอลลีวู้ดเองก็ตาม

 

1. Skin Trade



             สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่หนังต่างประเทศเพียว ๆ เลยสักทีเดียว เพราะเป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างไทยและแคนาดา แต่ก็ถือว่าได้ประกบกับนักแสดงแอ็คชั่นรุ่นใหญ่อย่าง ดอล์ฟ ลันด์เกรน, ไมเคิล ไจ และรอน เพิร์ลแมน รวมถึงเป็นผลงานของผู้กำกับคนไทยที่ได้ไปโกอินเตอร์กับกับหนังฮอลลีวู้ดมาแล้วอย่าง เอกชัย เอื้อครองธรรม

Skin Trade - คู่ซัดอันตราย ว่าด้วยเรื่องราวของ นิค แคสซิดี้ (ดอล์ฟ ลันด์เกรน) นายตำรวจฝีมือดีจากสหรัฐอเมริกาที่ต้องการล้างบางเจ้าพ่อผู้ทริงอิทธิพลในวงการค้ามนุษย์อย่าง วิคเตอร์ ดราโกวิช (รอน เพิร์ลแมน) แต่เมื่อแผนการจับกุมทำให้นิคพลั้งมือฆ่าลูกชายสุดที่รักของวิคเตอร์ เขาจึงตัดสินใจฆ่าล้างครอบครัวแคสซิดี้ และทำให้เจ็บแสบอย่างสาสม นิครอดมาได้และตามรอยเพื่อแก้แค้นวิคเตอร์จนพบเบาะแสนำไปสู่ประเทศไทย ที่ซึ่งเขาจะได้พบกับ โทนี่ วิทยกุล (จา-พนม ยีรัมย์) ตำรวจไทยที่หมายจะยุติการค้ามนุษย์ให้ได้เช่นกัน การประชันฝีมือระหว่างนายตำรวจมือดีจากสองซีกโลกที่ว่ากันด้วยหมัดต่อหมัด ลูกเตะไม่ยั้ง และการไล่ล่าตามบ้านชาวบ้านในประเทศไทยที่จะทำให้คุณต้องมองสถานที่รอบตัวใหม่ แล้วจะพบว่า นี่มันคือการใช้โลเคชั่นเป็นสนามรบปะทะกันได้อย่างน่าสนใจ

 

2. Furious 7



             การโกอินเตอร์แบบเต็มตัวเรื่องแรกของจา พนม ที่ได้รับคำชื่นชมมากมายจากผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง และบรรดานักแสดง โดยเฉพาะวิน ดีเซลและเจสัน สเตแธม

เรื่องเล่าหลังจากภาค 6 เมื่อจบศึกกับ "โอเว่น ชอว์" วายร้ายจากภาคที่แล้ว "เดคคาร์ด ชอว์"(สเตแธม) หัวหน้าหน่วยรบใต้ดิน อดีตหน่วยพิเศษของอังกฤษ ก็ลั่นวาจาว่าจะล้างแค้นให้น้องชาย ที่อาการปางตายในโรงพยาบาล และรายแรกที่สังเวยไฟแค้นของเขาก็คือ “ฮาน” (ซุง คัง) หนึ่งในแก๊งค์ซิ่งระห่ำ เพื่อนรักของ "โดมินิค ทอร์เรตโต้" หรือ ดอม(วิน ดีเซล) และดอม ก็โดนถล่มบ้านอันแสนสงบของเขาใน LA ด้วยระเบิดของเดคคาร์ด ทำให้ดอมแค้นมาก และต้องการเอาคืนในสิ่งที่เดคคาร์ดได้บังอาจมาฆ่าเพื่อนรัก และทำลายครอบครัวอันแสนสุขของเขา แต่ด้วยข้อเสนอของ Mr.Nobody  (เคิร์ท รัสเซล) เจ้าหน้าที่ผู้ทำงานใต้ดินให้รัฐบาลอเมริกัน ที่ต้องการกำจัด "จากันดี" (ดีจ์มอน ฮอนซูว) หนึ่งในวายร้ายระดับโลก ที่รู้จักกับเดคคาร์ด ด้วยการชิง "ตาเทพ" อุปกรณ์จารกรรมข้อมูลที่สามารถเห็นทุกอย่างในโลกผ่านระบบอินเตอร์เนต ซึ่งถ้ามีอุปกรณ์นี้ ที่พัฒนาโดย "แรมซี่ย์" แฮคเกอร์ชาวอเมริกันที่ถูกจากันดีจับตัวไป โดยจา พนมรับบทเป็นสมุนเอกของ "จากันดี" ที่โชว์บทบาทบู๊กับ "พอล วอล์คเกอร์" ได้อย่างน่าประทับใจ

 

3. SPL 2 : A Time for Consequences



            หนังฮ่องกงที่แฟน ๆ ยกกันว่าเป็น “บทบาทการแสดงที่ดีที่สุดของจา พนม” เล่าเรื่องราวของตำรวจหนุ่มชาวฮ่องกง (อู๋จิง) ที่แฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งมาเฟีย แต่กลับถูกจับได้จนโดนยัดข้อหาและต้องถูกส่งเข้าไปติดคุกในเมืองไทย ซึ่งที่นั่นเขาได้พยายามหลบหนี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะคุกแห่งนั้นมี "ชัย" (จา พนม) ผู้คุมยอดฝีมือที่มีความเก่งกาจด้านศิลปะการป้องกันตัวชนิดเหนือธรรมดาคอยดูความเรียบร้อยอยู่ แต่สุดท้าย ชัย ก็ได้ล่วงรู้ว่านักโทษชาวฮ่องกงคนนี้ความจริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือ ด้วยข้อแลกเปลี่ยนเป็นการช่วยเหลือให้ลูกสาวของ ชัย ได้เข้าทำการรักษาโรคลูคีเมียที่กำลังจะคร่าชีวิตเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ จนตำรวจหนุ่มชาวฮ่องกงกับผู้คุมนักโทษชาวไทยจึงต้องร่วมมือกันเพื่อโค่นแก๊งมาเฟียลงให้ได้

เรื่องนี้ได้รับคำชมเชยมาก โดยเฉพาะเรื่องฉากแอ็คชั่นที่มันส์สมจริงแบบถึงพริกถึงขิง และมุมกล้องที่ออกแบบมาได้ดี รวมถึงจะได้เห็นบทบาทดราม่าของจา พนมอีกด้วย

 

4. xXx: Return of Xander Cage



            การกลับไปฝั่งฮอลลีวู้ดอีกครั้ง ของจาพนม เนื่องจากวิน ดีเซล ประทับใจจา มากๆ จาก Fast 7 จึงได้ทาบทามมาร่วมแสดงสมทบใน xXx : Return of Xander Cage โดยครั้งนี้เขาได้ประกบกับดอนนี่ เยน นักแสดงแอ็คชั่นเจ้าบทบาทาทชาวฮ่องกง ที่โด่งดังเป็นพลุแตกจาก Ip Man

เรื่องราวเล่าต่อจากภารกิจเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ "แซนเดอร์ เคจ" (วิน ดีเซล) ถูกทางรัฐบาลประกาศให้เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เขาได้หลบหนีสังคม มาใช้ชีวิตแบบสงบสุข (?)แต่จนแล้วจนรอดก็ถูกตามตัวให้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ในการหยุดแผนการของ "เซียง" (ดอนนี เยน) กับลูกทีมของเขา ที่รวมถึงทาลอน (จา พนม ยีรัมย์)  ที่มีความสามารถด้ารกีฬาผาดโผน และเสี่ยงตายพอๆ กับแซนเดอร์ เป้าหมายของเซียงกับพรรคพวกก็คือ ต้องการครอบครองสุดยอดอาวุธหายนะโลกรุ่นใหม่อย่าง  "Pandora's Box"