Iron Man ภาคแรกเกือบมีตัวร้ายตัวอื่นที่ไม่ใช่ ไอรอน มองเกอร์

อย่างที่รู้กันว่า เจฟฟ์ บริดเจส ได้รับบทเป็น โอบาห์ไดอาห์ สเตน ผู้ที่สนิทกับ โทนี่ สตาร์ค และคอยช่วยเหลือในฐานะนักธุรกิจอยู่เสมอ แต่ภายหลังจึงได้เปิดเผยว่าสเตนนั่นเองที่เป็นผู้ที่ขายอาวุธสงครามให้กับผู้ก่อการร้ายโดยที่สตาร์คไม่รู้และได้ใช้เศษชุดเกราะจากการลักพาตัวสตาร์คมาสร้างชุด ไอรอน มองเกอร์ และต่อสู้กับ ไอรอน แมน ในที่สุด อย่างไรก็ตามประธานมาร์เวลสตูดิโออย่าง เควิน ไฟกี เผยว่าความจริงแล้วตัวร้ายเกือบไม่ใช่สเตนแต่เป็น แมนดาริน ตัวร้ายที่ได้ปรากฏตัวใน Iron Man 3 นั่นเองครับ

“มันเจ๋งมากที่ได้เขากลับมา เจ๋งมาก แต่หากคุณจำได้ ตอนที่เขาถูกวางตัวมารับบท เขาเป็นตัวร้ายรองจากแมนดาริน และในขณะที่เราเตรียมการกันนั้นทำให้เราตระหนักได้ว่าเราไม่ต้องการใช้แมนดารินในหนังเรื่องนั้น และเมื่อเราใช้ โอบาห์ไดอาห์ กลายเป็นตัวร้ายหลัก Iron Man จึงกลายเป็นอย่างที่ Iron Man เป็น แต่สิ่งที่ต้องการคือ ไอรอน มองเกอร์ จำเป็นต้องลงไปตายในเตาปฏิกรณ์อาร์ค”

ดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่ไม่ได้ใช้ แมนดาริน เข้ามาเป็นตัวร้ายหลัก เพราะด้วยความที่เป็นหนังภาคแรกผู้ชมอาจยังไม่พร้อมกับการที่ต้องมีตัวร้ายที่ใช้พลังเวทย์มนต์ แต่สำหรับความเห็นของผู้รับบทอย่าง เจฟฟ์ บริดเจส เองได้เผยว่าในทีแรกที่ได้เข้ามารับบทเขาเข้าใจว่าในตอนสุดท้ายสเตนจะไม่ตายครับ

“ในบทหนังตอนที่ผมเข้ามาตัวละครของผมจะยังมีชีวิต พวกเขาเปิดชุดออกและผมก็หนีออกไป แต่พอเราถ่ายทำฉากนั้นเข้าจริงๆ พวกเขาไม่ได้เปิดชุดผมออก ผมเลยถามตอนนั้นว่า ‘นี่นายจะไม่เปิดชุดผมออกเหรอ’ พวกเขาบอก ‘ไม่’ ผมก็บอก ‘นี่นายจะฆ่าตัวละครของผมเหรอ’ พวกเขาก็ตอบว่า ‘คืองี้ นี่เป็นหนังจากคอมมิคนะ คุณอาจจะกลับมาก็ได้ ใครจะรู้ล่ะ”

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราอาจไม่ได้เห็นตัวร้ายจากเรื่อง Iran Man กลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้ง แต่สำหรับพระเอกอย่าง โทนี่ สตาร์ค ก็จะกลับมากอบกู้โลกอีกครั้งแน่นอนใน Avengers : Infinity War ที่มีกำหนดฉาย 26 เมษายน 2018