3 งานการกำกับและ 2 การแสดงสุดเจ๋งของ Ben Affleck หนุ่มใหญ่สุดเท่ห์ที่ไม่ได้มีดีแค่การแสดง

Movie News6 พฤศจิกายน 2560

                 ณ เวลานี้เมื่อพูดถึง Batman แล้ว ณ เวลานี้คอหนังหลายคนคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก Ben Affleck นักแสดงหนุ่มใหญ่วัยกลางคนมาดเท่ห์ที่เคยประกบ Bruce Willis มาแล้วจนโด่งดังใน  Armageddon รวมถึงหนังมหากาพย์สงครามที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง Pearl Harbor และยังเคยรับบทฮีโร่ทนายตาบอดผู้ผดุงความยุติธรรมของ Marvel  ในบท Daredevil มาแล้ว และยังมีหนังที่เขาแสดงจนโด่งดังอีกมากมายทั้งหนังฟอร์มเล็กฟอร์มใหญ่ และที่สำคัญการรับบทอัศวินรัตติกาลของเขาใน Batman V. Superman นั้น ทำให้เขาได้รับความชมอย่างมากมายว่าเป็น Batman ที่ดีที่สุด ซึ่งเขาถอดความ Batman ในวัยกลางคนที่ผ่านพ้นกับหลายเหตุการณ์จนหมดศรัทธากับมนุษย์ออกมาได้อย่างเยี่ยมยอด

Ben Affleck กำลังจะกลับมาอีกครั้งในบทรัศวินรัตติกาล กับภาพยนตร์รวมดาว Superheroes ฝั่ง DC Comics อย่าง Justice League ซึ่งเรื่องจะต่อเนื่องกับ BvS. หลังจากการเสียสละตนเองของ Superman ที่ทำให้ Bruce Wayne กลับมาศรัทธาในตัวมนุษยชาติอีกครั้ง เขาจึงขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรคนใหม่อย่าง Diana Prince หรือ Wonder Woman ในการเร่งมือควานหาผู้มีพลังพิเศษ  มาร่วมกันต่อกรกับภัยคุกคามครั้งใหม่จากนอกโลกที่อันตรายยิ่งกว่า ซึ่งเหล่าฮีโร่นี้ประกอบไปด้วย Batman, Wonder Woman, Aqua  man, Cyborg และ The Flash ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในการรวมกันบนแผ่นฟิล์มของ Superheroes ฝั่ง DC Comics ซึ่งจะเข้าฉายในไทย 16 พฤศจิกายน นี้ ในโรงภาพยนตร์ เตรียมเก็บตังค์รอกันได้เลย

แต่นักแสดงเจ้าเสน่ห์สุดเท่ห์หน้านิ่งคนนี้นั้น สิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าการแสดงของเขาก็คือการกำกับภาพยนตร์และเขียนบทรวมถึงการอำนวยการสร้าง ที่ตอนนี้ถือได้ว่าเขาเป็นมือดีที่เป็นที่ต้องการตัวคนหนึ่งของ Hollywood เลยก็ว่าได้ Ben Affleck หรือชื่อเต็ม ๆ คือ Benjamin Geza Affleck-Boldt เขาเกิดที่เมืองเบิร์คเลย์, รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากครอบครัวแยกทางกันตอน11ขวบและย้ายมาที่เมืองแคมบริดจ์, รัฐแมสซาชูเซ็ตต์ส เขาได้พบกับเพื่อนข้างบ้านที่ปัจจุบันคือคู่หูคู่ซี้แห่งวงการ Hollywood และมีผลงานร่วมกันหลายเรื่อง คน ๆ นั้นก็คือ Matt Damon ซึ่ง Ben ได้ฉายแววความเก่งกาจด้านการเขียนบทมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ เขากับ Matt ได้ร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์ “Good Will Hunting” และ Miramax ก็ขอซื้อไปทำเป็นภาพยนตร์ ในปี 1996 โดยมีทั้งคู่ก็ได้รับบทนำในเรื่องประกบรุ่นเก๋าอย่าง Robin Williams ซึ่งพวกเขาได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ต้นฉบับยอดเยี่ยมจากรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์ไปด้วย และต่อมาแม้เขาจะกำกับหนังไม่กี่เรื่อง แต่ก็ได้รับคำชื่นชมมากมาย

และในวันนี้จะขอมาแนะนำหนัง 3เรื่องที่หนุ่มใหญ่คนนี้กำกับออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงหนังอีก 2 เรื่องที่เขาแสดงไว้ได้ดีเยี่ยม จนได้รับเสียงชื่นชมมากมายทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไป มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

 

1. Gone Baby Gone (2007)



ผลงานการกำกับภาพยนตร์ชิ้นแรกของเขา ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของเดนิส เลแฮน ผู้ประพันธ์เรื่อง Mystic River ซึ่งถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อนหน้านี้ โดยบรรดานักวิจารณ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "สะกดผู้ชมได้อยู่หมัด"

เรื่องราวของ Gone Baby Gone เริ่มขึ้น ณ เมืองบอสตัน เมื่อ ด.ญ.อแมนด้า แม็คเกรดี้ (แมเดอลีน โอไบรอัน) วัย 4 ขวบ ลูกสาวของเฮเลน แม็คเกรดี้ (เอมี่ ไรอัน) หายตัวไปอย่างลึกลับ จนร้อนถึงแพทริก เคนซีย์ (เคซีย์ แอฟเฟล็ก) กับแองเจลล่า เจเนอโร่ (มิเชล โมนาแกน) สองคู่รักนักสืบเอกชน ซึ่งถูกลีโอเนล (ติตัส เวลลิเวอร์) และบริทริก แม็คเกรดี้ (เจมี่ มาดิแกน) ผู้เป็นลุงและป้าของอแมนด้า ว่าจ้างให้สืบหาตัวหลานสาวผู้เคราะห์ร้าย

เพื่อสืบหาเบาะแสเพิ่มเติม ทั้งแพทริกและแองเจลล่า จึงต้องร่วมมือกับเรมี่ เบรสซองต์ (เอ็ด แฮรริส) และนิค พูล (จอห์น แอชตัน) สองนายตำรวจผู้ทำการคลี่คลายคดีนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของแจ็ค ดอยล์ (มอร์แกน ฟรีแมน) ผู้รับผิดชอบคดีนี้โดยตรง ในชั่วเวลาไม่นานนัก พวกเขาทั้งหมดกลับพบเงื่อนงำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถพลิกผันเหนือความคาดหมาย ปริศนาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของอแมนด้าค่อยๆ ถูกคลี่คลาย โดยพวกเขาจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ สติสัมปชัญญะ หรือแม้กระทั่ง "ชีวิต" ของพวกเขาเอง

 

2. The Town (2010)


        The Town งานกำกับหนังใหญ่ชิ้นที่ 2 ของ Affleck ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง Prince of Thieves โดย ชัค โฮแกน ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมมากมายอีกเช่นเคย และทำให้ชื่อของเขากระโดดก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับแนวหน้าในทันที

The Town ว่าด้วยเรื่องของ Doug MacRay (Ben Affleck) อาชญากรไร้จิตสำนึก เป็นหนึ่งในแก็งค์ปล้นธนาคารสุดโหดที่ภูมิใจกับการที่พวกตนสามารถขโมยทุก สิ่งที่ต้องการได้อย่างลอยนวล แต่แล้วในการปล้นครั้งล่าสุดของพวกเขา ก็ทำให้บางอย่างต้องเปลี่ยนไป !! เมื่อพวกเขาจับพนักงานธนาคารสาวอย่าง Claire Keesey (Rebecca Hall) มาเป็นตัวประกันในการปล้นธนาคารครั้งนั้นเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้หลังจากถูกปล่อยตัว Claire กลัวมากเพราะพวกเขารู้ทั้งชื่อและที่อยู่ของเธอ แต่ความกลัวของเธอก็สงบลงเมื่อได้พบกันหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่าง Doug ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าเป็นคนๆเดียวกับคนที่จับเธอเป็นตัวประกันก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนต่างตกหลุมรักและดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยที่ไม่รู้ว่าอันตรายกำลังคุกคามพวกเขาเข้ามาอีกครั้ง

 

3. Argo (2012)



         ผลงานการกำกับที่ส่งให้เขาเข้าสู่จุดสูงสุดของชีวิตจุดหนึ่งเลยทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมแบบถล่มทลาย ว่าเป็นภาพยนตร์ที่สนุก และลุ้นมาก จนส่งผลให้สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม และ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปนอนกอดกันเลยทีเดียวและยังกวาดรางวัลจากเวทีอื่นไปอีกมากมาย

หนังสร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ชิงตัวประกันชาวอเมริกันในประเทศอิหร่านเมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน 1979 ที่กรุงเตหะราน เมื่อเกิดเหตุปฏิวัติของชาวอิหร่านขั้นรุนแรง และมีการจับชาวอเมริกัน 52 คนเป็นตัวประกัน ท่ามกลางความโกลาหลชาวอเมริกัน 6 คนที่วางแผนหลบหนีและหาที่ลี้ภัยในบ้านของเอกอัครราชทูตชาวแคนาดา ในช่วงพริบตาก่อนที่ทั้ง 6 คนจะถูกพบตัวในสภาพใกล้ตาย "โทนี่ เม็นเดส" (เบน แอฟเฟล็ค) ซีไอเอที่ได้รับฉายาพิเศษว่า "จอมสกัด" เข้ามาพร้อมแผนการเสี่ยงภัย เพื่อพาพวกเขาหลบหนีออกนอกประเทศอย่างปลอดภัย นำมาสู่วีรกรรมที่จะลุ้นจนคุณแทบหยุดหายใจ

 

4. The Accountant (2016)



          เป็นผลงานการแสดงที่ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย กับการแสงที่นำเสนอความย้อนแย้งในตัวละครที่มีฉากหน้าคือนักบัญชี แต่ความจริงคือมือปืน และเขาเองนั้นเป็นคนมีอาการทางจิต ชอบย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งเขาแสดงได้เหมือนคนมีอาการทางจิตจริงๆ จนทุกคนชื่นชมเป็นเสียงเดียว

เนื้อหาจะเล่าถึง "คริสเตียน วูลฟฟ์" (เบน แอฟเฟล็ค) เป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ที่ผูกพันกับตัวเลขมากกว่าผู้คน เขาเปิดสำนักงานบัญชีในเมืองเล็กๆ เพื่อเป็นฉากบังหน้า แต่เบื้องหลังคริสเตียนเป็นนักบัญชีอิสระให้บรรดาแก๊งอาชญากรที่อันตรายที่สุดในโลก

เมื่อฝ่ายปราบปรามอาชญากรรมของกระทรวงการคลังซึ่งนำโดย "เรย์ คิง" (เจ.เค. ซิมมอนส์) เริ่มแกะรอยใกล้เข้ามา คริสเตียนจึงรับงานจากลูกค้าถูกกฎหมายเป็นบริษัทหุ่นยนต์ ซึ่งมีเทคโนโลยีอันล้ำสมัย พนักงานบัญชีของบริษัทแห่งนี้ (แอนนา เคนดริก) ค้นพบว่ามีตัวเลขส่วนต่างนับหลายล้านเหรียญ และส่วนต่างที่พวกเขาค้นพบ ก็นำไปสู่อันตรายครั้งใหม่ที่ทำให้ทั้งสองคนต้องสู้เพื่อเอาตัวรอด

 

5. Batman v Superman:Dawn of Justice (2016)



          การปะทะกันครั้งแรกบนจอยักษ์ของสุดยอด Superhero ตัวท้อป DC Comics ซึ่งทำให้ Affleck ได้รับกระแสชื่นชมจากแฟนๆ มากมายว่าเขาเป็น Batman ที่ยอดเยี่ยมมากๆ คนหนึ่ง ลบกระแสสบประมาทก่อนหน้าไปได้อย่างดี

บรูซ เวย์น หรือ แบทแมน (เบน แอฟเฟล็ค) ที่อยู่ในเหตุการณ์ถล่มเมืองจากการต่อสู้ของ "นายพลซ็อด" กับ "ซูเปอร์แมน" ทำให้บรูซได้เห็นถึงพลังอำนาจของซูเปอร์แมนที่เป็นได้ทั้งคุณและโทษ จนเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี กระแสสังคมที่มีต่อซูเปอร์แมนผู้มีพลังเหนือมนุษย์ ได้แตกออกเป็น 2 ฝั่ง ผู้ที่นับถือเขาเปรียบดังพระเจ้าองค์ใหม่ และผู้คนที่หวาดระแวงในพลังของเขาที่มากเกินควบคุม

ความบาดหมางระหว่างแบทแมนกับซูเปอร์แมนที่ค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภัยคุกคามเบื้องหลังพวกเขาก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มวลมนุษยชาติต้องตกอยู่ในอันตรายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน…แต่ผลสรุปเรื่องราว และกระแสวิจารณ์ก็อย่างที่ทราบกันว่าออกไปทางไหน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และความสนุกในการชมของแต่ละคนก็แล้วกัน