ทอม แฮงค์ส และ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ร่วมมือเปิดเผยเอกสารลับเพนตากอนใน The Post
ขณะที่ความตึงเครียดของ “The Post เอกสารลับเพนตากอน” เกิดขึ้นรอบๆ การต่อสู้ที่จะตีพิมพ์เผยแพร่ “เพนตากอน เปเปอร์ส” มันยังนำเสนอเรื่องราวของความร่วมมือ เกี่ยวกับว่าคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำงานด้วยกัน ยิ่งใหญ่กว่าการทำงานคนเดียวอย่างไร โดยหัวใจของเรื่องนี้ก็คือคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่ต้องมาทั้งผลักทั้งดันกันเพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด พวกเขาทั้งสองคนก็คือ แคเธอรีน แกรห์ม (รับบทโดย เมอริล สตรีพ) เจ้าของสำนักพิมพ์หญิงคนแรกของ The Washington Post และ บ.ก.ผู้มุ่งมั่น เบน แบรดลี (รับบทโดย ทอม แฮงค์ส) มิตรภาพที่น่าชื่นชมนี้เปิดโอกาสให้ทีมผู้สร้างได้จับคู่สตรีพและแฮงค์สเข้าด้วยกัน ซึ่งผลลัพธ์นั้นเป็นแรงกระตุ้นที่ดีมาก
“วันแรกที่ทอม ต่อด้วยเมอริลเดินเข้ามาในฉากห้องข่าว ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง เพราะพวกเขากลายเป็นเคย์และเบนไปเลย” ผู้อำนวยการสร้าง เอมี่ พัสคาล เล่า “พวกเขาทั้งสองคนคือนักแสดงประเภทที่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตัวละคร และมันก็น่าทึ่งมากค่ะ”
สำหรับ ทอม แฮงค์ส ซึ่งเป็นนักเขียนด้วย การสำรวจความซับซ้อนในโลกของแบรดลี คือความท้าทายที่มีเสน่ห์มากที่สุด เขาทุ่มเทให้กับการค้นคว้า เขาไปพบกับแหล่งข้อมูลเป็นการส่วนตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ เบน แบรดลี ครับ ซึ่งไม่ได้มาจากหนังสืออัตชีวประวัติของเขา” แฮงค์สบอก “มีฟุตเตทสัมภาษณ์เป็นตันๆ แต่ที่สำคัญที่สุด มีคนอยู่ 12 คนที่เคยทำงานกับเขา และเป็นคนที่ผมได้พูดคุยด้วย รวมถึง แซลลี่ ควินน์ ภรรยาของเขาด้วย เราได้คุยกันว่าเขาเป็นใคร ทำไมเธอถึงได้รักเขา และเขาทุ่มเทอะไรบ้างที่ The Post สุดท้าย ผมพบและได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเบนเยอะมาก ซึ่งผมรู้สึกหงุดหงิดตรงที่ไม่สามารถใส่ทั้งหมดนั้นลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้”
แต่บทบาทนี้ก็เต็มไปด้วยหลุมพราง เพราะบุคลิกของแบรดลี อาจไปซ้ำกับตำนานของภาพยนตร์เรื่อง All The President’s Men ซึ่ง เจสัน โรบาร์ดส์ ได้แสดงเอาไว้ แฮงค์สเอ่ยชมบทบาทการแสดงของ โรบาร์บส์ ในภาพยนตร์เรื่องนั้น แต่ขณะเดียวกัน เขาบอกว่าเขาอยากแสดงเป็นชายคนนี้ในแบบที่แตกต่างออกไป “ผมจะไม่ทำให้เขาดูน่าเกรงขาม เพราะเจสันได้ทำเอาไว้แล้ว” แฮงค์สบอก “แต่ผมถูกท้าทายโดยปัญหาในการหาจุดอื่นๆ ในตัวชายคนนี้ ผมมองหารอยแตกที่ผมสามารถกระโดดเข้าไปได้ กลับกลายเป็นว่าหลายคนเน้นย้ำกับผมถึงไอเดียที่เบนรู้วิธีที่จะบัญชาการทีมงานครับ”
แฮงค์ส กล่าวต่อไปอีกว่า “เห็นได้ชัดว่าเบนมีสัญชาตญาณของการเป็นนักข่าวที่ดีมาก แต่เขาก็เป็นคนที่คอยกระตุ้นคนอื่นๆ เป็นคนที่ไม่ใช่แค่หว่านล้อมทีมงานของเขา แต่ยังผลักดันพวกเขาไปข้างหน้า เขารักงานของเขา แต่สิ่งที่เขารักมากที่สุด ก็คือผลกระทบของงานของเขา นั่นก็คือการตามหาความจริง นำเสนอให้ถูกต้อง และปล่อยข่าวออกไปให้ผู้คนได้ตัดสินใจด้วยตนเอง เขายังเป็นคนที่ชอบการแข่งขันมาก ดังนั้น ผมจึงเข้าใจว่าเขาจะหงุดหงิดแค่ไหนกับความจริงที่ว่า The New York Times ได้ข่าวเรื่องเพนตากอน เปเปอร์สก่อนเป็นเจ้าแรก เขาไม่อยากเป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์รองบ่อนแน่”
ความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างผู้กำกับสตีเว่น สปีลเบิร์กและแฮงค์ส ถูกสร้างขึ้นอย่างมั่นคงจากการเคยทำงานด้วยกันมาก่อนหน้านี้ในภาพยนตร์อย่าง Bridge of Spies, Saving Private Ryan, Catch Me If You Can และ The Terminal แต่แฮงค์สบอกว่าสปีลเบิร์กยังคงทำให้เขาทึ่งได้ไม่หยุดหย่อน “สตีเว่นเป็นผู้ควบคุมจังหวะของฉากนั้นๆ” แฮงค์สบอก “เขาจะทำเมินใส่วินาทีที่คุณคิดว่าสำคัญ และกลับเจาะจงไปกับวินาทีที่คุณไม่เคยมองว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรเลย ตัวอย่างเช่น หลายครั้งที่เขาจะเดินมาหาผม และขอให้ผมพูดเสียงดังขึ้นหน่อย หรือหลายครั้งที่เขาจะเดินเข้ามาหาและบอกว่า ‘อย่ามั่นใจในตัวเองนัก’ เขาสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างกับเรื่องนี้มากกว่าสิ่งที่เราปล่อยออกมาในฐานะนักแสดง สตีเว่นยังคงเจ๋งอยู่ครับ”
สปีลเบิร์กพูดถึงแฮงค์สบ้าง “นี่เป็นหนังเรื่องที่ 5 แล้วที่ทอมกับผมได้ร่วมงานกันในฐานะนักแสดงและผู้กำกับ และทอมยังคงทำให้ผมประหลาดใจได้ในทุกครั้งที่เราทำงานด้วยกัน ผมไม่รู้ว่าเขามีตัวละครตัวนี้อยู่ในตัวเขา แต่เขาแสดง และมันก็น่าดูจริงๆ ที่ได้มาเห็นเขาสร้าง เบน แบรดลี ในเวอร์ชั่นของเขาขึ้นมา”
พบกับ “The Post เอกสารลับเพนตากอน” ภาพยนตร์ดราม่าสุดตื่นเต้นที่พูดถึงความร่วมมือที่ไม่น่าเป็นไปได้ระหว่าง แคทธาริน แกรห์ม (สตรีพ) เจ้าของสำนักพิมพ์หญิงคนแรกของ The Washington Post และบ.ก.ผู้มุ่งมั่น เบน แบรดลี (แฮงค์ส) เมื่อพวกเขาต้องแข่งขันกับ The New York Times เพื่อเปิดโปงการปกปิดความลับครั้งใหญ่ของรัฐบาล ซึ่งกินเวลานานกว่าสามทศวรรษ และอยู่ในการบริหารของประธานาธิบดีถึงสี่คน พวกเขาสองคนต้องเอาชนะความแตกต่างของเขาและเธอ เมื่อพวกเขาต้องเสี่ยงทั้งหน้าที่การงาน และเสี่ยงทั้งอิสรภาพของตนเอง เพื่อนำความเป็นจริงที่ถูกเก็บซ่อนไว้มานาน มาตีแผ่ให้ทุกคนได้รู้ วันนี้ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์