Mission: Impossible - Fallout จะพาผู้ชมเข้าไปล้วงลึกถึงแง่มุมที่มืดหม่นและสำรวจความเป็นมนุษย์ของ "อีธาน ฮันท์"
สำหรับ Mission: Impossible - Fallout ผู้กำกับ "คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์" กระตือร้นในการล้วงลึกเข้าไปในแง่มุมที่มืดหม่นและมีความเป็นมนุษย์มากกว่าของตัวละครเอกของเรื่อง เขาตั้งข้อสังเกตว่า "อีธานมีความลึกลับนิดๆ เสมอครับ ครั้งนี้ ผมอยากจะล้วงเข้าไปในหัวของเขามากขึ้นและสัมผัสถึงความผูกพันที่เขามีต่อคนอื่นๆ ชื่อเรื่องนี้ไม่ได้หมายถึงการระเบิดนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกับความปรารถนาดีทั้งหมดของอีธานด้วย เขาเดินเข้าไปในสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม และเขาก็ต้องผ่านมันไปให้ได้แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองถูกบงการอยู่ก็ตาม"
หัวใจสำคัญของเรื่องราวนี้คือการตัดสินใจที่เจ็บปวดของฮันท์ ที่ตามมาหลอกหลอนเขา ผู้อำนวยการสร้าง "เจค ไมเออร์ส" อธิบายว่า "ในตอนแรก เราพบว่าอีธานกำลังตกที่นั่งลำบาก เขาได้ทำผิดพลาด และเขาก็เจอกับเรื่องต่างๆ ในอดีต ที่มีผลกระทบทางอารมณ์ เขาต้องตัดสินใจว่า เขาจะช่วยเพื่อนและครอบครัว หรือจะช่วยคนเป็นล้านๆ คนจากอำนาจทำลายล้างที่เขากำลังต่อสู้อยู่ เขาจะต้องทำการล้วงลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของตัวเองครับ"
ครูซสวมบทตัวละครตัวนี้ในแบบที่นักแสดงแอ็กชันน้อยคนนักจะทำ ผู้อำนวยการสร้างเจค ไมเออร์สกล่าวเสริม "ทอมไม่เพียงแต่ใส่ดรามาที่ยอดเยี่ยมเข้าไปในบทนี้เท่านั้น แต่เขายังมีทักษะทางกายภาพที่จะทำในสิ่งต่างๆ ที่นักแสดงคนอื่นทำไม่ได้ด้วย ทั้งด้วยการฝึกฝนและความกล้าหาญ ผมคิดว่าคุณสามารถแบ่งแยกแฟรนไชส์แอ็กชันอื่นๆ ส่วนใหญ่จากดาราของเรื่องได้ แต่ถ้าไมมีทอม ก็ไม่มีอีธาน ฮันท์ครับ อย่างน้อยก็ไม่ใช่อีธาน ฮันท์ที่ผู้ชมทั่วโลกให้การยอมรับแบบนี้"
ตามคำขอของครูซ แม็คควอร์รีย์กลายเป็นผู้กำกับคนแรกที่ได้กลับมากำกับ Mission: Impossible เป็นครั้งที่สอง "หนึ่งในองค์ประกอบที่เป็นสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์นี้คือการมีผู้กำกับแตกต่างกันไปในแต่ละภาค" แม็คควอร์รีย์อธิบาย "ตอนที่ทอมขอให้ผมกลับมากำกับภาคนี้ ผมก็บอกว่าผมจะทำภายใต้เงื่อนไขที่ผมจะสามารถรักษาจิตวิญญาณของธรรมเนียมนั้นไว้ด้วยการเปลี่ยนแปลงภาษาภาพวิชวลจากภาคที่แล้ว ผมอยากให้คนที่ดู Rogue Nation และ Fallout รู้สึกเหมือนมีคนสองคนกำกับมันน่ะครับ"
Mission: Impossible - Fallout 26 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์