ในการสร้างสรรค์ดนตรีประกอบที่ไม่เหมือนกับที่เคยสร้างให้กับภาพยนตร์เรื่องไหนๆ มาก่อน ผู้กำกับ พีลได้หันไปหาไมเคิล อาเบลส์ ผู้ประพันธ์จาก Get Out ของเขา "ไมเคิลสามารถสร้างเสียงใหม่ๆ ได้จริงๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามารถในการทำให้ผู้ชมตื่นกลัวได้จริงๆ ครับ" พีลกล่าว "เขาสามารถเล่นในแบบที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยได้ในเวลาเดียวกัน มันก็เลยช่วยทำให้หนังเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ดนตรีของเขาก็ไม่ได้เพี้ยนหรือนอกกรอบจนทำให้ผู้ชมหลุดออกจากประสบการณ์นั้น ไมเคิลมีทักษะอย่างเหลือเชื่อและมีความชำนาญในดนตรีหลากหลายแนวมากๆ เราก็เลยสามารถสร้างลูกผสมที่เป็นเสียงใหม่นี้ขึ้นมาได้ นอกจากนั้น เราก็ยังมีทางลัดในการสื่อสารจาก Get Out ด้วย อีกอย่าง เขาเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก ไม่มีอีโก้เลย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่วิเศษสุดสำหรับเพื่อนร่วมงานครับ"

          อาเบลส์ตอบ "ตกลง" โดยไม่ลังเล "จอร์ดอนเล่าไอเดียสำหรับ Us ให้ผมฟังก่อนที่เขาจะเขียนบทซะอีก และมันก็เป็นหนึ่งในไอเดียที่ทำให้ความคิดคุณเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมาย" อาเบลส์กล่าว "ในฐานะศิลปิน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้ยินไอเดียที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ มันก็จะเป็นสิ่งที่คุณอยากมีส่วนร่วมด้วยครับ"

ในการเริ่มต้นกระบวนการแต่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับ Us พีลขอให้อาเบลส์แต่งเพลงแอนธีมสำหรับพวกที่ถูกพันธนาการขึ้นมา "ผมขอให้เขาเริ่มต้นจากเพลงแอนธีม แล้วเราค่อยต่อยอดจากตรงนั้นเพื่อสร้างเสียงของโลกใบนั้น" พีลกล่าว "ผมมีคำอธิบายเล็กๆ ที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนว่าเพลงแอนธีมควรจะมีเสียงออกมาเป็นยังไง มันควรจะให้ความหวังแต่ 'ให้ความรู้สึกผิด' คุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคย ท้ายที่สุดแล้ว มันควรจะนำเสนอด้านมืดของอเมริกา เพลงชาติของเรา ความภูมิใจในชาติของเรา มันเป็นตัวแทนของโลกมืด ของบาปของชาวอเมริกา มันเหมือนด็อปเปิลแกงเกอร์ทางวัฒนธรรมของเราครับ"

       นอกจากนั้น เขายังให้เงื่อนไขที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งกับอาเบลส์ด้วย "จอร์แดนบอกผมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันจะต้องน่ากลัวสุดๆ" อาเบลส์กล่าว ก่อนจะหัวเราะ "จริงๆ แล้ว เขาใช้คำที่แรงกว่านั้นอีกครับ" เขาก็เลยเริ่มต้นทำงานอย่างรวดเร็ว "ทางเสียงแล้ว คำนิยามของคำว่า 'น่ากลัว' คือความไม่คุ้นเคย" อาเบลส์กล่าว "สิ่งที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป ที่เราคาดไม่ถึง เป็นสิ่งที่พาเราไปสู่ความรู้สึกกลัวนั้น" แต่การหาเสียงใหม่ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดความกลัวอย่างแท้จริงไม่ใช่งานง่ายเลย "เราต้องการจะสร้างความสะพรึงกลัวให้กับผู้ชม ดังนั้น คุณก็จะต้องหาสิ่งที่คาดไม่ถึง" อาเบลส์กล่าว "ผมมองหาเสียงที่จะทำให้คุณไม่สบายใจ" เขาหัวเราะ "แต่มันก็เป็นความท้าทยในการคิดสิ่งที่น่ากลัวและไม่คุ้นเคย ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน หรือไม่เคยมีใครทำในรูปแบบนี้น่ะครับ"

        สำหรับเพลงแอนธีม อาเบลส์เลือกไอเดียในการใช้องค์ประกอบคอรัส "จอร์แดนชื่นชอบการประสานเสียง และเสียงของมนุษย์ก็เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างเหลือเชื่อ ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้" อาเบลส์กล่าว "นอกจากนั้น เสียงร้องยังสามารถก่อเกิดเป็นเสียงที่น่ากลัวได้ ดังนั้น จึงมีการใช้เสียงร้องตลอดทั้งเรื่อง เพลงแอนธีมฟังดูแล้วเหมือนกับเพลงปลุกใจผู้คนที่เตรียมพร้อมรบ เหมือนกับการปลุกระดม แต่เสียงพวกนั้นไม่ได้อยู่ในภาษาที่แยกแยะได้ ในส่วนอื่นๆ ของหนังเรื่องนี้ มันมีเอฟเฟ็กต์เสียงเช่นผู้ชายร้องคราง ผู้หญิงทอดถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง เป็นเสียงที่พิลึกจริงๆ พวกนี้น่ะครับ พวกมันถูกออกแบบมาเพื่อทำให้คนตื่นตกใจน่ะครับ" เขาหัวเราะ

"มีหลายฉากที่เสียงพวกนั้นจะพาคุณไปยังอีกสถานที่หนึ่งและทำให้คุณอึดอัด เสียงพวกนั้นกระตุ้นอารมณ์ ดังนั้นบางครั้ง เอฟเฟ็กต์เสียงก็สามารถสื่อสารอารมณ์ได้ในแบบที่ไม่มีคำพูดหรือเครื่องดนตรีชนิดไหนทำได้น่ะครับ"

เตรียมหลอนไปกับการไล่ล่าของศัตรูที่เป็นตัวเราเองใน Us วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์