เผยทริคมายากลที่ใช้สร้าง "ด็อปเปิลแกงเกอร์" แฝดหน้าเหมือนของตัวละครใน Us

Movie News3 เมษายน 2562

            "ส่วนที่ท้าทายที่สุดของหนังเรื่องนี้คือความจริงที่ว่า ทุกคนมีสองคน" เอียน คูเปอร์ ผู้อำนวยการสร้าง Us กล่าว "และในความเป็นจริง มันมีมากกว่าสองด้วยซ้ำเพราะคุณมีนักแสดงที่รับบทสองบท แล้วก็มีดับเบิลสำหรับถ่ายรูปของนักแสดงแต่ละคน แถมด้วยสตันท์ดับเบิลของเขาและเธออีกต่างหาก ดังนั้น ในการถ่ายทำฉากบางฉาก เราก็จะมีลูพิต้าในบทอเดเลด มีดับเบิลสำหรับถ่ายรูปของเธอ มีสตันท์ดับเบิลของเธอ มีดับเบิลของเรด และมีดับเบิลสำหรับถ่ายรูปของเรด บางครั้งในตอนที่คุณไปที่กองถ่าย คุณก็จะได้เห็นคนหกคนในบทเก๊บ รวมถึงวินสตันด้วย ทุกคนสวมเสื้อแจ็คเก็ตของมหาวิทยาลัยโฮเวิร์ดและสวมแว่นด้วย" เขาหัวเราะ "คุณจะคิดว่า 'เรากำลังสร้างหนังอะไรกันอยู่เนี่ย' น่ะครับ"



        "เกรดี้ โคเฟอร์" ซูเปอร์ไวเซอร์จากอินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค ช่วยรับมือกับเรื่องทั้งหมดนั่นพร้อมกับทีมผู้สร้าง ด้วยการช่วยแนะแนวทางว่าอะไรที่พวกเขาจะสามารถทำได้จริงๆ และอะไรที่จะสามารถเสริมเข้าไปได้ด้วยวิธีการทางดิจิตอล เพื่อสร้างประสบการณ์ภาพยนตร์ที่แนบเนียน "ความท้าทายหลักของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การสร้างด็อปเปิลแกงเกอร์และการทำให้ตัวละครทั้งสองกลุ่มได้แสดงในฉากเดียวกันครับ ในการทำให้หนังเรื่องนี้เวิร์ค ผู้ชมจะต้องเชื่อความจริงที่ว่าทุกคนมีด็อปเปิลแกงเกอร์ ดังนั้น ผมกับจอร์แดนก็เลยสรรหาสารพัดวิธีมาทำแบบนั้น"



         แน่นอนว่าเทคโนโลยีได้ก้าวหน้ามาแล้วนับตั้งแต่ภาพยนตร์ดิสนีย์ปี 1961 โคเฟอร์จึงสามารถนำเสนอทางเลือกต่างๆ ในการแก้ปัญหาใดๆ ก็ตามที่อาจเกิดขึ้นให้กับทีมผู้สร้างได้ "มีสิ่งร่วมสมัยมากมายที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้ เราสามารถทำการแทนที่หัว แทนที่หน้า ที่คุณอาจจะให้ลูพิต้ามาเล่นประกบสตันท์ดับเบิลของเธอหรือกับดับเบิลถ่ายรูปของเธอ แล้วค่อยให้พวกเธอสลับที่กัน ดังนั้น ตอนนี้ ผมก็จะใช้คนที่เป็นต้นฉบับที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง สำหรับทั้งตัวละครและด็อปเปิลแกงเกอร์ แล้วเราค่อยนำหน้าจากเทคหนึ่งมาใส่ลงไปบนหน้าของดับเบิลสำหรับถ่ายรูปในอีกเทคหนึ่ง มันเป็นกระบวนการที่ท้าทายก็จริง แต่ถ้าทำได้ดีล่ะก็ มันก็จะน่าเชื่อมากๆ ครับ"



       ความชำนาญด้านเทคนิคนั้นทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์ที่น่าตื่นตะลึงบางอย่างที่น่าประทับใจยิ่งกว่าเดิมเพราะผู้ชมจะไม่ทันสังเกตเห็นมันเลย พวกมันแค่ทำให้สิ่งที่ไม่น่าเชื่อกลายเป็นสิ่งที่น่าเชื่อ โคเฟอร์เล่าว่า "มีฉากเยี่ยมๆ ฉากหนึ่งที่บ้านของครอบครัววิลสันถูกรุกรานโดยด็อปเปิลแกงเกอร์ของพวกเขา และเรด ด็อปเปิลแกงเกอร์ของอเดเลด ก็จับหัวของอเดเลด กระแทกกับโต๊ะกาแฟกระจก ในขณะที่ลูพิต้ากำลังแสดงทั้งสองด้านของฉากนั้น จอร์แดนสังเกตเห็นว่ามันมีเงาสวยๆ ของใบหน้าเรดบนผิวกระจก เขาก็เลยให้ผู้กำกับภาพลดเฟรมในพื้นที่นั้นลงมา และเราก็สามารถจัดองค์ประกอบเงาของเรดให้อยู่ชิดกับใบหน้าของอเดเลด มันทำให้เกิดภาพเงาและความแปลกแตกต่างที่น่าสนใจจริงๆ ครับ"



         การผสมผสานที่แนบเนียนแบบนั้น ที่ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างของจริงและดิจิตอลเลือนราง เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกสมจริงอย่างที่สุดและน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดด้วยเหตุผลนั้นเอง "ถ้าเราทำงานของเราอย่างดีล่ะก็ เอฟเฟ็กต์พวกนั้นก็จะล่องหนและไม่ใช่ประเด็นน่าสนใจ" โคเฟอร์กล่าว "ผมอยากให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาได้เห็นมายากล ผมอยากให้พวกเขาอินไปกับหนังเรื่องนี้และยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริงระหว่างที่พวกเขาดูมันอยู่ และพอมองย้อนกลับไป พวกเขาถึงได้รู้สึกตัวว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของการหลอกตาที่ประณีตบรรจงนี้น่ะครับ"

เตรียมหลอนไปกับการไล่ล่าของศัตรูที่เป็นตัวเราเองใน Us วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์