เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ไปเมื่อไม่นานมานี้ กับ "Breathe" หรือในชื่อภาษาไทย "ใจบันดาลใจ" ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ  โตรอนโต ฟิล์ม เฟสติวัล  (Toronto International Film Festival) ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองของหายๆ คน และเมื่อการฉายสิ้นสุดลง สื่อทุกสำนักต่างยกให้ Breathe เป็นการโชว์การแสดงที่สุดยอดของ "แอนดรูว์ การ์ฟิลด์" อีกเรื่องหนึ่ง ที่ถือได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซ ไม่แพ้ Hacksaw Ridge หรือ Silence ที่อาจส่งให้เขาเข้าสู่เวทีออสการ์ได้อย่างง่ายดาย

BREATHE คือผลงานการกำกับครั้งแรกของ แอนดี้ เซอร์กิส (The Jungle Book, Star Wars: The Force Awakens แสดง Mo-Cap เป็นทั้งกอลลั่ม, ทั้งคิงคองและลิงซีซาร์ในหนังชุด Apes) สร้างจากบทภาพยนตร์ของ วิลเลี่ยม นิโคลสัน ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สมัย และเขียนบทภาพยนตร์ดังอย่าง Everest, Les Misérables และ Gladiator

Breathe นี่คือหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ของ "โรบิน คาเวนดิช" หนุ่มนักผจญภัยวัย 28 ผู้มีชีวิตที่ดี มีรักที่สดใส แต่กลับมาล้มป่วยด้วยโรคโปลิโอ ที่ในสมัยนั้นยังไม่มียารักษา ทำให้เขาเป็นอัมพาตและต้องใช้ชีวิตอยู่กับเครื่องช่วยหายใจบนเตียงไปตลอดช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ถ้าป่วยด้วยโรคนี้และออกไปใช้ชีวิตนอกโรงพยาบาลจะอยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือน โรบินกลับพลิกหน้าประวัติศาสตร์โลกด้วยการเลือกที่จะออกไปนอกโรงพยาบาล ด้วยความช่วยเหลือของ "ไดอาน่า" ภรรยาสุดที่รัก และเพื่อนพ้องของเขา และการพัฒนารถเข็นพ่วงเครื่องช่วยหายใจของ “เท็ดดี้ ฮอลล์” ที่สร้างขึ้นจากไอเดียของโรบิน ทำให้พลิกประวัติศาสตร์วงการแพทย์ในเรื่องคนที่เป็นอัมพาตมาจนถึงทุกวันนี้ และจากการต่อสู้ของโรบินและ ไดอาน่า ทำให้พวกเขาพบความหมายของ 'ชีวิต' และ 'การมีชีวิตอยู่' สิ่งเดียวที่ทำให้เขากล้ายืนหยัดและต่อสู้กับโลก คือ รักแท้ ผู้หญิงที่คอยอยู่เคียงข้างเขา แม้ในวันที่ตัวเขาอ่อนแอที่สุด และนี่คือเสียงชื่นชมจากสื่อมวลชนระดับโลกในรอบปฐมทัศน์โลก

อีริค คอห์น จาก indiewire
สำหรับการทำหนังเรื่องแรกของ แอนดี้ เซอร์กิส (นักแสดงที่เล่น mo-cap ในหนังดังหลายเรื่อง) Breathe ดูจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ทะเยอทะยานมากนัก แต่มันกลับเป็นหนังที่พอดิบพอดี คือวางตัวเป็นหนังดราม่า บีบน้ำตา และเล่าเรื่องตามธรรมเนียมนิยมสุดๆ แต่ส่วนที่ดีมากๆ คือ แอนดรูว การ์ฟีลด์ และ แคลร์ ฟอย ที่มอบการแสดงอันอบอุ่นจับใจเหลือเกิน จนทำให้ Breathe เป็นหนังมีสัมผัสที่ “พิเศษ” ขึ้นมาในทันใด

กาย ลอร์ด จาก Variety
ความท้าทายอย่างหนึ่งในงานกำกับครั้งแรกของแอนดี้ เซอร์กิส ก็คือ เขาเป็นนักแสดงที่โดดเด่นในการเล่นภาษากายอย่างมาก (เขาเล่นเป็นทั้งกอลลั่ม, ทั้งคิงคองและลิงซีซาร์ในหนังชุด Apes) แต่ต้องมากำกับหนังที่ตัวละครหลักขยับร่างกายไม่ได้เลยนอกจากใบหน้า ซึ่งโชคดีจริงๆ ที่แอนดรูว การ์ฟีลด์ นั้นได้มอบการแสดงผ่านสีหน้าได้สมบูรณ์ไร้ที่ติ เขาไม่เป็นรองเอ็ดดี้ เรดเมย์น ที่ได้ออสการ์จาก The Theory of Everything เลยแม้แต่น้อย

ปีเตอร์ แบรดชอว์ จาก The Guardian
แม้ในช่วงต้น Breathe จะทำให้รู้สึกว่ามันเหมือนหนังรักโรแมนติกจากอังกฤษที่เชยแสนเชย แต่พอยิ่งดูไปเรื่อยๆ หนังกลับดึงเราให้ไปสัมผัสกับอารมณ์อันละเอียดอ่อน จนตราตรึงอยู่กับเสน่ห์ของหนังจนถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งการ์ฟีลด์และฟอย ได้ให้การแสดงที่น่าประทับใจมาก ถึงแม้บทหนังจะไม่ได้พาเราไปสำรวจแง่มุมอื่นๆ ของตัวละครมากเท่าที่ควรจะเป็น

อดัม ชิทวู้ด จาก Collider
บอกตามตรงว่าตัวหนังนั้นมองโลกในแง่ดีเกินไปมากๆ แต่สิ่งที่ช่วยให้หนังเรื่องนี้มีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างน่าทึ่งคือ การแสดงของ แอนดรูว การ์ฟีลด์ และ แคลร์ฟอย ที่ตราตรึง ชวนติดตาม และเก่งกาจสุดๆ / การ์ฟีลด์พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า เขาพยายามจะรับงานที่ท้าทายความสามารถ และเขาก็ประสบความสำเร็จกับบทที่ต้องอาศัยฝีมือระดับนี้

คริส บัมบรีย์ จาก JoBlo
หนังเรื่องแรกของ แอนดี้ เซอร์กิส เป็นหนังสเกลเล็กๆ ที่เล่าเรื่องชีวประวัติบุคคลสำคัญด้วยลีลาตามขนบนิยม การเลือกงานที่ไม่ยากเกินตัวนี้ ทำให้เซอร์กิสกำกับมันได้อยู่มือ และควบคุมอารมณ์ของผู้ชมได้อยู่หมัด สิ่งที่ดีที่สุดในหนังคือ เคมีระหว่าง แคลร์ ฟอย และ แอนดรูว การ์ฟีลด์ นอกจากพวกเขาจะแสดงได้ดีเยี่ยมแล้ว พวกเขายังกลมกลืนเหมาะเจาะจนชวนให้คิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริงๆ

เชิญพิสูจน์การแสดงสุดประทับใจแล้ว กับ BREATHE ใจบันดาลใจ
19 ตุลาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างซับไทย