5 หนังขายฝีมือของพ่อหนุ่มหน้ามน แอนดรูว์ การ์ฟิล์ด ที่คุณไม่ควรพลาด
ณ จุดนี้ แอนดรูว์ การ์ฟิล์ด คงเป็นหนึ่งในนักแสดงขวัญใจหลาย ๆ คน นักแสดงหนุ่มที่แจ้งเกิดสุดปังจากบทบาทของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ใน The Amazing Spider Man ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นฉบับรีบูธใหม่ของไอ้แมงมุม จนได้กระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม แต่ใครจะรู้พระเอกที่สร้างชื่อจากหนังฮีโร่ จะเป็นคนหนึ่งที่สามารถขายฝีมือทางการแสดงได้ไม่แพ้ใครจนถึงขนาดเข้าชิงออสการ์มาแล้ว กับHacksaw Ridge เมื่อปีที่ผ่านมา และในปีนี้ เขากลับมารับบทดราม่าที่อาจส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลอีกครั้ง ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง ของคนที่มีตัวตนอยู่จริง ใน Breathe เรื่องราวของหนุ่มนักผจญภัย โรบิน คาเวนดิช ที่อยู่ ๆ ก็ป่วยด้วยโรคโปลิโอในวัย 28 จากคนที่แข็งแรง กลายเป็นผู้ชายที่ต้องใช้ชีวิต บนรถเข็นตลอดไป โดยมีแรงใจจาก ไดอาน่า (แคลร์ ฟอย เจ้าของรางวัลลูกโลกทองคำจากซีรี่ย์ The Crown) ผู้หญิงคนที่รักเขาที่สุดและไม่เคยทิ้งไปไหน ทั้งคู่ช่วยกันต่อสู้และพลิกความเชื่อในยุคนั้นที่ว่า ผู้ป่วยโปลิโอไม่สามารถใช้ชีวิตนอกโรงพยาบาลได้ เมื่อใดที่ออกไปนอกดรงพยาบาล โรบินได้รับคำเตือนจากแพทย์ว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น สุดท้ายโรบินตัดสินใจถามตัวเองว่า ความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่นั้นคืออะไรกันแน่ จนนำมาสู่การพลิกหน้าประวัติศาสตรวงการแพทย์มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งการทุ่มเทเพื่อการแสดงของการ์ฟิล์ดนั้น เขาลงทุนในการฝึกหายใจ และการเคลื่อนไหวบนรถเข็น อยู่เกือบ 3 เดือนเพื่อรับบทชายพิการ Breathe (เบร็ธ) คือผลงานการกำกับครั้งแรกของ แอนดี้ เซอร์กิส (The Jungle Book, Star Wars: The Force Awakens) สร้างจากบทภาพยนตร์ของ วิลเลี่ยม นิโคลสัน ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สมัย และเขียนบทภาพนตร์เรื่อง Everest, Les Misérables และ Gladiatorทนี้
และ วันนี้เราขอนำเสนอ ภาพยนตร์ 5 เรื่องของพ่อพนุ่มแอนดรูว์ การ์ฟิล์ด ที่พิสูจน์แล้วว่า เขามีฝีมือไม่แพ้ใครในเวทีรางวัลไหน ๆ เลย
1. Never Let Me go (2010)
Never Let Me Go หนังรักสะเทือนอารมณ์ ที่ไม่ได้เข้าฉายในบ้านเรา และตอนนั้นยังมีคนรู้จักการ์ฟิล์ดไม่มากนัก ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมของ Kazuo Ishiguro เป็นเรื่องราวสะท้อนความทรงจำของเด็ก 3 คน Ruth (Keira Knightley), Kathy (Carey Mulligan) และ Tommy (Andrew Garfield) อยู่ ในโรงเรียนประจำที่มีชื่อว่า Hailsham โรงเรียนที่อยู่ห่างไกลและตัดขาดจากโลกภายนอก เด็ก ๆ ไม่มีสิทธิ์ออกนอกรั้วโรงเรียนได้แม้แต่ก้าวเดียว ด้วยเรื่องที่เล่าต่อกันมาว่าใครที่ออกไปจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ในโรงเรียนมีระบบสะสมเหรียญเพื่อแลกของรางวัล เหล่าอาจารย์ที่คอยพร่ำบอกให้พวกเขารักษาสุขภาพและย้ำว่าพวกเขาเป็นคน ‘พิเศษ’ จนกระทั่งวันหนึ่งตัวเอกทั้งสามก็ได้รับรู้ความจริงบางอย่างที่กำลังรอพวกเขาอยู่!!
2. The Social Network (2010)
หนังสร้างชื่ออีกเรื่องของการ์ฟิล์ด ที่ไร้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค หลังจากเลิกรากับแฟนสาวนามว่าเอริก้า มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก นักศึกษาหนุ่มวัย 20 ปีจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็สวมวิญญาณแฮคเกอร์ แฮคเข้าไปในทะเบียนประวัตินักศึกษาเพื่อเอาข้อมูลและรูปนักศึกษาใน มหาวิทยาลัยมาสร้างเป็นหนังสือรุ่นออนไลน์ ในชื่อเว็บไซต์ Facemash และมีการโหวตว่าใครฮอตไม่ฮอตอีกด้วย โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เอดัวร์โด้ เซฟริน ซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ค แต่แล้ว 6 เดือนต่อมา เขาก็ถูกมหาวิทยาลัยลงโทษด้วยการระงับใช้อินเทอร์เน็ต เพราะเข้าไปแฮคข้อมูลในระบบทะเบียนมหาวิทยาลัย หลังจากนั้น เขาก็เกิดไอเดียใหม่ เริ่มต้นคิดค้นและพัฒนาเว็บไซต์เฟซบุ๊คขึ้นมา โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ดัสติน มาสโควิตช์ รูมเมทของเขาซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊คอีกคน พวกเขาได้ช่วยกันพัฒนาเฟซบุ๊คเรื่อยมา จนเห็นว่ามันต้องฮอตมาก ๆ แน่ ๆ มาร์คจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย ทิ้งใบปริญญาแล้วเดินหน้าพัฒนาเฟซบุ๊คอย่างจริงจัง จนในที่สุดมันก็ทำรายได้มหาศาลให้กับเขา และผลักให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ความร่ำรวยก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตราบรื่นอย่างที่ใคร ๆ คิด เพราะหลังจากที่เขาประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ เขาก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความเป็นส่วนตัวและต้องต่อสู้กับปัญหาความขัด แย้งระหว่างเขา และเอดัวร์โด้ เซฟริน ที่มีปัญหากันเรื่องผลประโยชน์ แต่เขาจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ในเมื่อเป็นเพียงแค่หนุ่มรุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องกฎหมายอะไรมากนัก
3. 99 Homes (2015)
หนังดีที่หลายคนและหลายเวทีมองข้าม การ์ฟิล์ดรับบทพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้มีอาชีพก่อสร้างอย่าง เดนนิส แนช ที่ถูกขับไล่ออกจากบ้านพร้อมกับลูกชายและ ลินน์ (ลอร่า เดิร์น) แม่ของเขา โอกาสเดียวที่เขาจะได้บ้านคืนคือการทำงานให้ริค คาร์เวอร์ (ไมเคิล แชนน่อน) นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ผู้ที่ทำการขับไล่เขากับครอบครัว เขารู้สึกถึงความไร้ความปรานีของงานนี้ และความไม่โปร่งใสหลายอย่าง เขาถลำลึกลงกับงานของคาร์เวอร์ ก่อนจะพบว่างานมันโหดร้ายและเลวร้ายกว่าที่เขาคิด
4. Hacksaw Ridge (2016)
หนังที่ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออกการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม Hacksaw Ridge ว่าด้วยเรื่องราวของ เดสมอนด์ ที. ดอสส์ (Desmond T. Doss) ชายหนุ่มชาวอเมริกันที่ได้รับใช้ชาติในสงคราม แต่ปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ และไม่แตะปืนแม้แต่กระบอกเดียว เนื่องด้วยศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า เขาจึงถูกรุมกลั่นแกล้งจากบรรดาเพื่อนทหารด้วยกันอย่างหนัก โดยหาว่าเป็นไอ้ขี้ขลาด กระทั่งวันออกศึก เขาเข้าสู่สนามรบโดยไม่พออาวุธแม้แต่อย่างเดียว ช่วงเวลาที่เป็นตายเท่ากันนั้น เขากลับฝ่าดงกระสุนช่วยเพื่อนทหารจากข้าศึก ปัดลูกระเบิดด้วยตัวเอง ทำแผลให้สหายร่วมรบอย่างเต็มใจ เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตรอด
5. Silence (2017)
หนังดีอีกเรื่องที่หลายคนมองข้าม และเป็นอีกเรื่องที่พิสูจน์ฝีมือของการ์ฟิล์ดว่ายอดเยี่ยม สร้างจากนิยายสุดคลาสสิกของ ชูซากุ เอนโด (Shusaku Endo) เล่าถึงการเดินทางของ 2 บาทหลวงหนุ่มชาวโปรตุเกส (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ และอดัม ไดรเวอร์) ที่เข้าไปยังประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์ โดยทั้งคู่ต้องตามหาอาจารย์ที่หายตัวไป (เลียม นีสัน) หลังมีข่าวลือว่าเขาหันหลังให้กับศาสนจักร ท่ามกลางบรรยากาศของความรุนแรงและการถูกกดขี่ข่มเหง