เบื้องหลัง 4 เรื่องราวในโปรเจกต์ "ของขวัญ" ภาพยนตร์แห่งแรงบันดาลใจ
"นนทรีย์ นิมิบุตร" โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ "ของขวัญ" อธิบายถึงแรงบันดาลใจ-ที่มาที่ไปของโปรเจกต์ชิ้นสำคัญนี้ว่า
โปรเจกต์เรื่อง "ของขวัญ" นี้คือเราได้รับแรงบันดาลใจจาก "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9" มาโดยตลอดทั้งจากในพระราชกรณียกิจและพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน และพวกเราคนทำหนังเองก็จะมีส่วนหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระองค์ท่านเหมือนกันในการที่เราจะทำงานอย่างหนักเพื่อทำสิ่งทีดีที่สุดไว้ให้กับคนดู เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันที่เราทุกคนพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจ ส่งต่อสิ่งที่ท่านทำไว้ให้กับคนไทยทุกคนผ่านสื่อภาพยนตร์ที่เราถนัดครับ
มันคือการใช้คำสอนของพระองค์ท่านมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของทุกๆ คน เราก็นำเอาคอนเซปต์นี้มาแบ่งเป็น 4 เรื่อง จากความร่วมมือของ 4 ผู้กำกับ ก็จะมี "ผม (อุ๋ย นนทรีย์), คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว, คุณโขม ก้องเกียรติ และ คุณมะเดี่ยว ชูเกียรติ" ซึ่งทุกคนก็มีความเต็มใจและพร้อมที่จะทำภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้ "สหมงคลฟิล์ม" และ "คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ในการสนับสนุนพวกเราให้ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ร่วมด้วยโรงภาพยนตร์คุณภาพจากทั่วไทยที่จะพร้อมใจกันส่งต่อ "ของขวัญ" ชิ้นนี้ให้ถึงหัวใจคนดูทั้งประเทศ โดยเรื่องราวทั้ง 4 เรื่อง ได้แก่
1. The Letter (ปรัชญา ปิ่นแก้ว)
"หนังผมจะเป็นการผจญภัยใสๆ เหมือนดูหนังดิสนีย์ แต่ว่าสิ่งที่เด็กได้รับหรือว่าความรู้สึกที่ได้รับในตอนท้ายนี่มันต้องยิ่งใหญ่ให้สมกับเรื่องราวที่เราพูดถึงพระองค์ท่าน
โปรเจกต์นี้ผมว่าน่าสนใจที่เราจะได้ดูว่ามุมมองของผู้กำกับทั้งสี่คนนี้จะเล่าเรื่องออกมายังไง และที่สำคัญที่สุดคือโปรเจกต์นี้จะสร้างความแตกต่างจากหนังลักษณะนี้ที่เราเคยคุ้นตากันยังไงบ้าง ผมว่าเรื่องนี้สิ่งพิเศษอย่างหนึ่งก็เป็นการส่งท้ายหลังจากที่เรามีพิธีสำคัญสำหรับพระองค์ท่านเสร็จสิ้นแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเป็นรอยต่อที่ดีครับ"
2. ดอกไม้ในกองขยะ (นนทรีย์ นิมิบุตร)
"ดอกไม้ในกองขยะ" ก็เหมือนความงดงามที่อยู่ในความสกปรก ความงดงามของดอกไม้สำหรับผม มันเปรียบเหมือนความรักที่มันอยู่บนกองขยะที่ทุกคนไม่เอา สิ่งที่ทุกคนทิ้ง ที่ทุกคนว่าน่ารังเกียจ แต่มันมีความงดงามอยู่ในนั้น ถ้าครอบครัวเราอบอุ่น มีความรักกัน มันก็จะทำให้ไม่ว่ามันจะเกิดอุปสรรคอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรขึ้นก็ตาม ความรักจะทำให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หนังเรื่องนี้ก็จะเริ่มต้นคิดแบบนี้ ถ้าเราพูดถึงคนที่เป็นตัวแทนขององค์กรเล็กๆ ในสังคมอย่าง "คนที่มีอาชีพเก็บขยะ" หน้าที่ความรับผิดชอบของเค้าคือจัดการของที่ทุกคนทิ้งให้มันเข้าที่เข้าทาง ผมว่าเค้ามีความเสียสละเพื่อพวกเราเพื่อจะไม่ให้บ้านเมืองสกปรก ผมรู้สึกอย่างนั้นก็เลยหยิบเอาชีวิตของเค้ามาพูดถึงในหนังเรื่องนี้ โดยรูปลักษณ์คนเก็บขยะคือเค้าทำในสิ่งที่ทุกคนรังเกียจ แต่ไอ้ความงามที่มันซ่อนอยู่ในนั้นต่างหากที่เรากำลังจะบอกว่าอย่ามองคนแค่ภายนอก จริงๆ แล้วภายในเค้าอาจจะเป็นคนที่จิตใจดีกว่าที่เราคิดก็ได้
3. สัจจะธรณี (ก้องเกียรติ โขมศิริ)
"เรื่องราวก็จะพูดถึงว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร เราจะเดินทางหาตัวตนที่แท้จริงของเราเจอหรือไม่ บางทีมันไม่สำคัญเท่าเราเข้าใจหรือเปล่าว่าทั้งหมดมันคือการสมมติขึ้นทั้งนั้น แต่ดินต่างหากที่ไม่เคยโกหกใคร ในหลวงจึงพัฒนาดิน คอนเซปต์หลักๆ ก็มาจากชื่อของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่แปลว่า 'พลังของแผ่นดิน' เราก็เลยรู้สึกว่าการเล่นเรื่องดินเนี่ย น่าจะเป็นการพูดถึงสิ่งที่มีอยู่และไปข้างหน้าอย่างมั่นคงมากกว่า การไปข้างหน้ามันอาจไม่ได้พูดถึงเชิงเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ถ้าเราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้วเราก็จะไปข้างหน้าได้จริงๆ"
4. เมฆฝนบนป่าเหนือ (ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล)
"หนังเรื่องนี้พูดถึงคนที่พยายามจะทำสิ่งดีๆ ให้กับโลก แต่มันก็มีอุปสรรค มีสิ่งที่ทำให้มันไม่เกิดขึ้น แต่กับในหลวงท่านทำมาทั้งชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ ทำจนวันสุดท้าย ท่านทำได้ แล้วถ้าเราอยากจะทำอะไรดีๆ ต่อโลก เราก็อย่าไปย่อท้อ นึกถึงท่านเอาไว้"
ส่วนเสน่ห์ของทั้งโปรเจกต์ "ของขวัญ" นี้ก็คือ ผู้กำกับแต่ละคนก็จะตีความและนำเสนอสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดจากคำสอน จากสิ่งที่ท่านได้กระทำ และบันดาลใจเรายังไง จุดนี้น่าสนใจ ซึ่งในโปรเจกต์นี้ เราก็มาร่วมกันระลึกถึง เห็นแง่มุมที่พระองค์ท่านได้วางเอาไว้ เห็นแง่มุมที่เราจะปฏิบัติและเดินตาม และก็เป็นเหมือนของขวัญที่พวกเราตั้งใจทำและส่งมอบให้กับคนดู นอกจากความบันเทิงก็คงจะได้รับความทรงจำดีๆ กลับไปด้วย
#ของขวัญ เพราะเราเชื่อว่า ความดี ยิ่งส่งต่อ ยิ่งยิ่งใหญ่
28 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ส่งต่อความดีในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ตัวอย่างภาพยนตร์