7 ภาพยนตร์สุดซาบซึ้ง รำลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9
การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 นำมาซึงความโศกเศร้าเสียใจของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่รักและคิดถึงพระองค์ท่านอย่างสุดหัวใจ เนื่องด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ตลอด 70 ปีแห่งการครองราชย์ที่ทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดอย่างไม่หยุดหย่อน และจากสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำให้ปวงชนชาวไทย ทำให้บรรดานักสร้างภาพยนตร์ได้สร้างภาพยนตร์เทิดพระเกียรติออกมามากมาย ในการรำลึกถึงพระองค์ท่าน และให้แรงบันดาลใจกับชาวไทยให้ยึดมั่นไว้ซึ่งความดี
และล่าสุดกับ โปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่อง "ของขวัญ" โปรเจคต์ของ "สหมงคลฟิล์มฯ" เป็นหนังสั้น 4 เรื่อง จาก 4 ผู้กำกับ ที่ร้อยเรียงเข้าไว้ด้วยกัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9" ทั้งด้านพระราชกรณียกิจและพระราชดำรัสเพื่อที่จะส่งต่อแรงบันดาลใจ สานต่อสิ่งที่พระองค์ท่านทำไว้ให้กับคนไทยทุกคนผ่านหนังเรื่องนี้ จากความร่วมมือของผู้กำกับแนวหน้าของประเทศไทย 4 คน คือ นนทรี นิมิบุตร, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, ก้องเกียรติ โขมศิริ และ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล โดยหนังสั้น 4 เรื่อง จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยทั้ง 4 ภาค ที่พร้อมใจกันส่งต่อ "ของขวัญ" ชิ้นนี้ให้ถึงหัวใจคนดูทั้งประเทศ ซึ่งชมฟรีวันนี้ได้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศไทย
และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่าน วันนี้จึงขอแนะนำภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ 7 เรื่อง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระองค์ท่านเช่นกัน เพื่อเป็นการรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อเสริมแรงกำลังใจ ในการทำความดีต่อไปให้ผืนแผ่นดินไทย ที่จะเป็นการแสดงออกถึงความรัก และความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่านได้อย่างดีที่สุด
1. ด้วยเกล้า
ผลงานการกำกับของ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล หนังไทยเรื่องสำคัญที่พูดถึงผู้คนซึ่งใช้ชีวิตตามแนวทางพระราชดำรัสของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 หนังบอกเล่าเรื่องราวของ เสาคำ (จรัล มโนเพ็ชร) ชาวนาจากภาคเหนือ ที่พยายามเบียดเสียดผู้คนจนเก็บเมล็ดข้าวพระราชทานได้ไป 1 กำมือเล็กๆ จาก พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในวันพืชมงคล ณ ท้องสนามหลวง ในปีแรกที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พระราชทานข้าวเปลือกจากแปลงทดลอง ในวังสวนจิตรลดา (ในเหตุการณ์จริง ปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว อยู่ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2505-2507) และด้วยความรัก เทิดทูนและศรัทธาใน ‘ข้าวของพ่อ’ เสาคำก็ได้หว่านข้าวเหล่านั้นลงในผืนดินที่แห้งแล้ง ท่ามกลางความดูหมิ่นจากคนในครอบครัว ธรรมชาติที่โหดร้าย และความไร้น้ำใจ ของนายทุนแม่เลี้ยงเงินกู้ ซึ่งรับบทโดย นฤมล นิลวรรณ ที่ฝากฝีมือในบทบาทนี้ไว้ได้ อย่างถึงใจจนโดนคนเกลียดไปพักใหญ่ แต่สุดท้ายด้วย ฝนหลวง ซึ่งเปรียบเสมือน 'น้ำพระทัยของในหลวง' เสาคำกลับมายืนหยัดได้ด้วยผลผลิตที่งดงาม ดวงตาที่เปี่ยมประกายความสุข และรวงข้าวสุกอร่ามเต็มอ้อมแขน ภาพยนตร์ยังมีสองนักแสดงคู่ขวัญ สันติสุข พรหมศิริ และ จินตหรา สุขพัฒน์ ร่วมแสดงอีกด้วย
2. คุณทองแดง ดิ อินสไปเรชั่นส์ : The Inspirations Khun Tong Dang
ด้วยแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ จากพระราชนิพนธ์ "เรื่องทองแดง" เรื่องราวของสุนัขทรงเลี้ยงยอดกตัญญูใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่ปรากฏการณ์ภาพยนตร์แอนิเมชั่นฝีมือคนไทย ประกอบได้ด้วยแอนิเมชั่นทั้ง 3 เรื่อง
เรื่องที่ 1 "ทองหล่อ" (Tonglor) ผลงานโดย The Monk Studios (เดอะมั๊งค์ สตูดิโอ) โดยมีตัวเอกคือ "เจ้าทองหล่อ" ลูกสุนัขขนปุกปุย ขี้เล่น ช่างสงสัยตามประสาหมาเด็ก ซุกซน แต่แอบมีความฝันอยากจะเก่งแบบคุณทองแดงเพื่อจะได้เป็นองครักษ์หรือบอดี้การ์ดคอยปกป้องเจ้านายน้อยๆเด็กหญิงตาบอดในไร่พลับกับคุณยาย เรื่องราวเหนือจินตนาการของสุนัขตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดี โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคุณทองแดงที่จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เรื่องที่ 2 "หมาวัด" (Mid-Road มิด-โร๊ด) จากผลงานของ Imagimax (อิเมจิแมกซ์) มีตัวเอกชื่อเล่นว่า "จร" สุนัขไทยแบบบ้านๆ ขนสั้น ตาโต หูตั้ง ว่ากันว่าสุนัขไทยเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ สำนึกในบุญคุณยึดมั่นในความกตัญญูชนิดที่ว่าเอ่อล้นอยู่เต็มหัวใจ จรก็คือหมาวัดดีๆนี่เองที่อาศัยข้าวแดงแกงร้อน และความรักความเมตตาจากหลวงพ่อที่ชุบเลี้ยง คอยช่วยเหลือดูแลยามป่วยไข้ เฉกเช่นเดียวกับหมาวัดต่างพันธุ์ที่อาศัยวัดที่เปรียบได้กับบ้านเกิดเรือนนอนที่ตนหวงแหน และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องเมื่อยามที่มีใครไม่ดีคิดมาบุกรุกทำร้ายและทำลาย แน่นอนว่าแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ในตัวคุณทองแดงที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์สำนึกในความกตัญญูรู้คุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ต่างอะไรกับที่จรมีต่อหลวงพ่อนั่นเอง
เรื่องที่ 3 "คอบเปอร์เพื่อนรัก" (Little Copper ลิตเติ้ล คอปเปอร์) โดย Workpoint Pictures (เวิร์คพอยท์ พิคเจอร์ส) "คอปเปอร์" เจ้าสุนัขหุ่นยนต์ จากเศษเหล็ก เศษน็อต เศษสปริง โลหะไร้ค่า ที่ไม่มีใครสนใจ แต่กลับถูกชุบชีวิต ประกอบร่างกลายเป็น สุนัขหุ่นยนต์สุดเอ๋อ บ้าพลังเกินร้อย สนุกสนานอารมณ์ดีเกินเหตุ และเป็นเพื่อนสี่ขาของ "น้องสนิม" เด็กผู้หญิงหุ่นกระป๋องตัวจ้อยผู้ชุบหัวใจใส่ความรักให้กับเจ้าคอปเปอร์ จากแรงบันดาลใจที่สมเด็จย่าทรงให้แง่คิดแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้นทรงพระเยาว์ ให้รู้ว่าหากอยากได้ของสิ่งใดก็ตามจงหัดเรียนรู้ที่จะสร้างหรือทำขึ้นมาด้วยตนเอง และการที่พระองค์ท่านทรงไม่เคยมองข้ามสิ่งเล็กๆ ท่านสอนให้พสกนิกรชาวไทยรู้ว่าข้าวของทุกชิ้นล้วนมีคุณค่า ในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่
3. 9 มหัศจรรย์องค์ราชัน พลังแผ่นดิน
ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ เรื่อง 9 มหัศจรรย์องค์ราชันพลังแผ่นดิน เป็นผลงานที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจและจา กความรู้สึกของประชาชนที่เคารพรัก เทิดทูนและจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริ ย์ ผ่านนักแสดงที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ จะนำเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่โรงภาพยนตร์และสถาบันการศึกษา เป็นการเรียงร้อยเรื่องสั้นทั้งหมด 9 เรื่อง ความยาวเรื่องละ 12 นาที เข้าด้วยเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เริ่มจาก มหัศจรรย์สามัคคี และ มหัศจรรย์เสียงเพลง ถ่ายทอดชีวิตจริงของเยาวชนที่ร่วมกันแสดงและฝึกการร้อง เพื่อภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ต่อด้วย มหัศจรรย์แห่ง ศิลป์ สื่อถึงความเพียรพยายามของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เขียนรูปในมุมมองที่แตกต่าง เพื่อจัดแสดงศิลปะเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา นอก จากนี้ ยังมี มหัศจรรย์ความรัก ที่มี "สินจัย เปล่งพานิช" รับบทแม่กับความรักที่มีต่อลูก มหัศจรรย์พระมหาชนก และ มหัศจรรย์องค์ราชันพลังแผ่นดิน
4. ภาพยนตร์แอนิเมชั่น พระมหาชนก (ดัดแปลงจากพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก) The Story of MAHAJANAKA
พระมหาชนก เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งดัดแปลงมาจากทศชาติชาดกของพระโพธิสัตว์ โดย ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงสนพระราชหฤทัยค้นคว้าและแปล เพื่อความเข้าใจง่าย บทพระราชนิพนธ์พระมหาชน ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ๒๕๓๙ และถ่ายทอดสู่รูปแบบการ์ตูน ในปี ๒๕๔๒ โดยมี ชัย ราชวัตร เป็นผู้วาดภาพการ์ตูนประกอบ พระมหาชนกเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น ได้รับการสร้างโดยเริ่มต้นจาก 'สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)' หรือ 'SIPA' ร่วมกับ 'สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย’ หรือ 'TACGA' จัดทำภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง "พระมหาชนก" ขึ้นโดยมีบริษัทผู้ผลิตแอนิเมชั่นเข้าร่วมจำนวนมาก และได้นักแสดงฝากฝีมือหลายท่านมาร่วมให้เสียงพากย์ด้วย
5. ปิดทองหลังพระ ตอน ความฝันอันสูงสุด
เป็นเรื่องราวของวีรกรรมของวีรชนผู้เสียสละชีพเพื่อชาติ? ข้าราชบริพารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูวีรกรรมของวีรชนผู้กล้า ผู้เสียสละ โดยนำเค้าโครงเรื่องมาจากชีวประวัติบุคคล 2 วีรชน ผู้กองแคน ร.ต.อ.ธรณิศ ศรีสุข หมวดตี้- ร.ต.ต.กฤติติกุล บุญลือ และวีรชนผู้กล้าจากทหารตำรวจอีกหลายคนในชื่อตอน "ความฝันอันสูงสุด"
คำว่า ปิดทองหลังพระ หมายถึง การทำความดีที่คนอื่นมักมองไม่เห็น โดยลักษณะการปิดทององค์พระนั้น คนส่วนใหญ่มักจะไปปิดทองด้านหน้าขององค์พระ ส่วนด้านหลังองค์พระจะไม่มีใครเดินไปปิดมากนัก คนทั่วไปจึงมองไม่เห็นทองที่ปิดอยู่ด้านหลัง สำนวนนี้มีไว้ให้ข้อคิดกับคนที่มุ่งหวังจะทำความดีว่า อย่าคิดแต่เพียงว่าทำความดีแล้วจะต้องมีคนชื่นชม ยกย่องสรรเสริญเสมอไป ขอให้กระทำความดีตลอดเวลาจนเหมือนกับทองที่ปิดจนล้นองค์พระแล้วคนอื่นจึงจะเห็นความดีในภายหลังนั่นเอง
จากพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็ดพระเจ้าอยู่หัวฯ "ปิดทองหลังพระ" สู่พระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงรับสั่งว่า "ข้าพเจ้าอ่านแล้วก็นึกสงสารพ่อแม่เขา นึกถึงความเสียสละของนักรบเหล่านี้ ซึ่งมีทั้งทหาร ทั้งตำรวจที่อยู่ในพื้นที่อันตราย ซึ่งคนที่อยู่กรุงเทพฯ อาจจะนึกไม่ออกว่าอันตรายแค่ไหน ซึ่งที่นั่นมีทั้งปืน ทั้งระเบิด ทั้งอะไร ถ้าพวกเราคนไทยทั้งประเทศสามารถส่งกำลังใจไปให้เขา มีจดหมายหรืออะไรก็ตาม ส่งไปให้กำลังใจแก่นักรบเหล่านี้ที่เป็นคนดีและเป็นคนที่เสียสละเพื่อประเทศชาติอย่าง 2 นายตำรวจที่ข้าเจ้ารู้จักชื่อเนี่ย คงมีอีกเยอะแยะที่ไม่รู้จักที่ทำงานเสี่ยงภัย" ยังคงมีเหล่าวีรชนผู้กล้าอีกมากที่เสียสละ ที่ไม่รู้จัก ที่ปิดทองหลังพระ
ถึงเวลาหรือยังที่เราจะร่วมให้กำลังใจ ให้พวกเขาได้รับทราบว่า ยังมีผู้คนคิดถึงพวกเขายังมีผู้คนเห็นพวกเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเขาจะปิดทองหลังพระอยู่ที่ใดเรายังเห็นเขา และเป็นกำลังใจ และร่วมต่อสู้ไปกับพวกเขา ก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะหมดกำลังใจและกลืนไปกับความเลวร้ายที่อยู่รายรอบตัว ดั่งพระบรมราโชวาทที่ว่า "ในบ้านเมืองเรานั้นมีทั้งคนดีและไม่ดี ไม่มีใครสามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ หากแต่ต้องช่วยกันปกป้องคนดีและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง" พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
6. ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุด ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว
ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ โครงการฯ เทิดเกล้า คือโครงการที่ บริษัม อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา และ อีก 9 บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ชั้นนำ โดยน้อมนำพระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริต่าง ๆ รวมถึงพระบรามราโชวาท พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ มาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวน่าประทับใจ จำนวน 9 เรื่องใ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 ซึ่ง1 ใน 9 เรื่องนั้น ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ทรงแสดงนำด้วย โดยมี โทนี่ รากแก่น ร่วมแสดง กับภาพยนตร์ ที่ว่าด้วยเรื่องของ "ความเพียร" ใน "ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว" ผลิตโดย บริษัท โอเรียนทัล อายส์ จำกัด
"ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว" กำกับการแสดง โดย ก้องเกียรติ โขมศิริ เป็นเรื่องราวของพี่ชายกับน้องสาว ตัวเล็กๆ ที่เผชิญกับปัญหาชีวิต แม่ตาย พ่อป่วย น้องไม่ยอมพูด พี่ชายมีชีวิตดำดิ่งลงเรื่อยๆจนพี่ชายได้มาทำงานพิเศษในท้องฟ้าจำลองกับดอกเตอร์ รับบทโดย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทำให้สองพี่น้องได้เห็นมุมมองต่อโลกผ่านการพูดคุยกับเธอและได้เรียนรู้ว่าการใช้ชีวิตต้องประกอบด้วยความ เพียร จึงจะผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ แทนที่จะถามว่าเราจะไปถึงดาวดวงไหนได้ไหม เรากลับต้องถามตัวเองว่า วันนี้ฉันว่ายน้ำแล้วหรือยัง ถ้าอยู่นิ่งๆ เราจะจมลงและจะไม่มีทางไปถึงดวงดาวที่อยากไปได้เลย
7. ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ แผ่นดินของเรา
ภาพยนตร์เพลงพระราชนิพนธ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์เพลงพระราชนิพนธ์ในสไตล์ Musical ร้อง เล่น เต้น เรื่องแรกของโลก ซึ่งดำเนินเรื่องผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จำนวน 6 เพลงอันได้แก่ บทเพลงพระราชนิพนธ์ ใกล้รุ่ง ลมหนาว ค่ำแล้ว สายฝน Oh I say แผ่นดินของเรา และ ยิ้มสู้ โดยภาพยนตร์ก็จะแบ่งเป็น 6 ตอนตามแต่ละบทเพลงพระราช