เมื่อพูดถึง จูดี้ เดนซ์ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับบทบาท M หัวหน้าของหน่วยงานสายลับ MI6 จากแฟรนไชส์ 007 ในยุคสมัยที่เพียร์ซ บรอซแนน เล่นเป็นเจมส์ บอนด์ ก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับแดเนียล เคร็ก ในขณะที่บท M ของเดนซ์ ก็ปิดฉากลงอย่างสวยงามใน Sky Fall ก่อนส่งผ่านให้กับ Ralph Fiennes ซึ่งอันที่จริงหากจะกล่าวถึงเจ้าป้าจูดี้ เดนซ์ กับอายุเกือบ 80 ของเธอนั้นบอกได้เลยว่า ลิสต์รายการที่ได้เข้าชิงรางวัลด้านการแสดงนั้นยาวเป็นหางว่าว และชนะรางวัลก็ไม่น้อย เพราะเจ้าป้าเป็นคนหนึ่งในวงการที่มีฝีมือการแสดงหาตัวจับได้ยาก และในปีนี้ การกลับมารับบทนำเต็มตัวอีกครั้งกับเรื่อง Victoria & Abdul ที่เป็นการร่วมงานกับผู้กำกับที่ได้เข้าชิงออสการ์ สตีเฟน เฟรียร์ส จาก The Queen และเป็นการกลับมารับบทสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียอีกครั้ง หลังจากรับบทนี้เป็นครั้งแรกจากเรื่อง MRS. BROWN ในปี 1997 จนถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์

            Victoria & Abdul บอกเล่าเรื่องจริงของมิตรภาพที่น่าทึ่ง และไม่น่าเป็นไปได้ ระหว่างสมเด็จพระราชินีวิกทอเรีย (จูดี้ เดนช์) กับเลขาหนุ่มชื่ออับดุล คาริม (อาลี ฟาซาล) ที่กลายมาเป็นครูของพระองค์ เป็นที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณ และเพื่อนผู้จงรักภักดี ปี 1887 อับดุลเดินทางจากอินเดียเพื่อถวายเหรียญในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ฉลองการขึ้นครองราชย์ครบ 50 ปีของสมเด็จพระราชินี แต่กลับเป็นที่โปรดปรานของพระราชินีผู้สูงวัยอย่างน่าประหลาดใจ  ความสัมพันธ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่น่าเป็นไปได้นี้ก่อให้เกิดศึกภายในพระราชวัง  พระราชินีต้องทรงงัดข้อกับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพาร Victoria & Abdul ตั้งคำถามเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา อำนาจ และความไร้สาระของจักรวรรดิอย่างติดตลก ผ่านมุมมองของมิตรภาพที่เหนือความคาดหมาย และลึกซึ้งกินใจ ร่วมกันสัมผัสมิตรภาพอันลึกซึ้งสุดประทับใจนี้ได้ 12 ตุลาคม 2560 ในโรงภาพยนตร์

และสำหรับวันนี้ขอนำเสนอ 5 บทบาทสุดเทพของเจ้าป้า ที่แสดงไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล และบางเรื่องก็ชนะด้วย เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนไปชม Victoria & Abdul กันในโรงภาพยนตร์

 

1. A Room with a View (1985)

          หนังที่ทำให้เจ้าป้าคว้ารางวัล BAFTA สาขานกแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมานอนกอดได้ หนังดัดแปลงจาก วรรณกรรมในยุคสมัยเก่า เอ็ดเวิร์ด บทประพันธ์ของนักเขียนอังกฤษ E. M. Forster สู่ภาพยนตร์พีเรียดยุค 80's ที่ตราตรึงใจสาวๆที่รักอิสระทั่วโลก A Room with a View เป็นหนังที่เล่าเกี่ยวกับชีวิตของ Lucy Honeychurch (Helena Bonham Carter) ซึ่งถูกเลี้ยงดูมาอย่างทนุถนอมอยู่ในกรอบอย่างดี จนวันหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวครั้งแรกที่ ฟลอเรนส์ ประเทศอิตาลี ทำให้เธอได้พบกับGeorge Emerson (Julian Sands) โดยเกิดจากการต้องการห้องของโรงแรมที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของฟลอเรนส์ได้ และภายหลังเมื่อเธอกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านที่อังกฤษแล้ว เธอจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างผู้ชายสองคนคือ Cecil (Daniel Day-Lewis) ผู้ชายที่ชาติตระกูลดีทุกกระเบียด กับ George ผู้ชายที่มีชีวิตอิสระ มีในสิ่งที่เธอไม่เคยมี ซึ่งการเลือกมีนัยถึงชีวิตของเธอด้วย

 

2. Mrs Brown (1997)

          ภาพยนตร์ที่ทำให้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และเป็นการรับบทราชินีวิคตอรียครั้งแรกของเดนซ์ หนังได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของพระราชินีวิคตอเรีย ในช่วงเวลาที่พระนางวิคตอเรียเพิ่งสูญเสียสามีไป และอยู่ในความโศกเศร้าอาดูรจนต้องหลบตัวออกจากสังคม จนกระทั่งข้ารับใช้ของพระนาง Mr. Brown ได้เข้ามาในชีวิตของพระนางและดูแลด้วยความเอาใจใส่ทำให้พระนางกลับมารู้สึกเหมือนมีชีวิตอีกครั้ง แต่มิตรภาพที่ใกล้ชิดของทั้งสองก็นำมาสู่เรื่องราวที่อื้อฉาวในชีวิตของพระนางที่นำมาสู่วิกฤติถึงขั้นสั่นคลอนพระราชบัลลังก์

 

3. Shakespeare in Love (1998)

           ผลรางวัลออสการ์สุดช็อคโลกในปีนั้น กับสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม กับการปรากฏตัวแค่ 8 นาทีของ เดนซ์ จากเรื่อง Shakespeare in Love ในบทของพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 ที่แผ่ออร่าและปล่อยพลังกระจายมากจนได้รางวัลไป เรื่องราวของ วิลเลี่ยม เช็กสเปียร์ (โจเซฟ ไฟนน์) นักประพันธ์หนุ่ม ที่ต้องการแรงบันดาลใจให้กับงานเขียนชิ้นล่าสุด ความรักที่หลบซ่อนระหว่างเขากับ ไวโอล่า (กวินเน็ท พัลโทรว์) หญิงสาวต่างชนชั้น ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในงานเขียนของเขา ทำให้บทประพันธ์ของเขาเรียงร้อยอย่างวิจิตรจนกลายมาเป็นวรรณกรรมชื่อก้อง Romeo and Juliet

 

4. Iris (2001)

             อีกครั้งกับการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในการรับบท ไอริส เมอร์ด็อค ในวัยชรา ในขณะที่ เคท วินสเลต รับบทไอริสในวัยสาว

ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างจากเรื่องจริงของ ไอริส เมอร์ด็อค นักเขียนและนักปรัชญาชาวไอริช บอกเล่าเรื่องราวความรัก ที่ผ่านทั้งความสุขและอุปสรรคของเธอ นับตั้งแต่เธอใช้ชีวิตแต่งงานกับนักวิจารณ์วรรณกรรมชื่อ จอห์น เบย์ลีย์ เป็นเวลา 40 ปี ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นที่อ็อกซ์ฟอร์ดในทศวรรษที่ 1950 จนถึงวาระสุดท้ายของเธอในปี 1999 รวมถึงประสบความสำเร็จในด้านวิชาชีพ ในฐานะนักเขียนและนักปรัชญาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เรื่อยไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ที่เธอต้องเผชิญกับโรคอัลไซเมอร์ ผลงานของเธอมักพูดถึงธรรมชาติ ของความดีและความชั่ว, เสรีภาพ, สถานะทางเพศ และ ความรัก เธอเป็นที่ประทับใจของใครหลายๆ คนที่ได้พบเห็น

ตลอดระยะเวลา 40 ปี ของความสัมพันธ์ที่น่าประทับใจ ระหว่าง ไอริส เมอร์ ด็อค กับ จอห์น เบย์ลีย์ ชีวิตการแต่งงานของพวกเขาเป็นที่ฮือฮา กล่าวได้ว่าชีวิตสมรสของพวกเขา เป็นตำนานโรแมนซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ แต่ขณะเดียวกัน เรื่องราวของพวกเขาก็ได้พิสูจน์ว่า ความรักที่ยิ่งใหญ่สามารถอยู่ยืนยาวคงทน แม้ว่าจะต้องผ่านเหตุการณ์ที่ลึกลับ และโศกสลดก็ตาม

กับสมญานาม "ผู้หญิงที่ชาญฉลาดมากที่สุดในอังกฤษ" ไอริส เมอร์ด็อค เป็นคนที่มีเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในเกาะอังกฤษ นับตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งการเป็นบัณฑิตที่อ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งเธอสร้างความตื่นตะลึงให้แก่โลก ด้วยจิตวิญญาณแห่งอิสระชน ในฐานะนักปรัชญาและนักเขียน กล่าวได้ว่า ไอริสนั้นก้าวล้ำหน้ากว่าใครๆ ในยุคเดียวกัน

 

5. Notes on a Scandal (2006)

           ภาพยนตร์ที่ทำให้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมอีกครั้งของเจ้าป้า และเป็นการประชันบทบาทของสองเจ้าป้า ตะละแม่ เคท บลังเช็ตต์ และ จูดี้ เดนซ์ Notes on a scandal เล่าความสัมพันธ์ประหลาดของผู้หญิงโดดเดี่ยวสองคนที่ต่างก็ "ซ่อน" บางสิ่งในตัวเอง "บาร์บาร่า โคเวตต์" (จูดี้ เดนซ) และ "ชีบา ฮาร์ท" (เคท บลังเช็ตต์) ทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนธรรมดาใน

ลอนดอน…บาร์บาร่าเป็นครูสาวแก่ทึนทึกที่กำลังจะเกษียณอายุในอีกหนึ่งปี ขณะที่ ชีบา เพิ่งเข้ามาเป็นครูสอนศิลปะที่โรงเรียนไม่นาน โดยฝ่ายหลังยังเป็นที่ป๊อปปูล่าร์ในโรงเรียน เพราะความสาวสวย และบุคลิกศิลปินทำให้โดดเด่นกว่าครูคนอื่นๆ
บาร์บาร่า ลอบสังเกตชีบา และเขียนมุมมองที่เธอมีต่อครูศิลปะลงไดอารี่ทุกวัน ความสัมพันธ์ของเพื่อนครูทั้งสองพัฒนาไปเรื่อยๆ จนบาร์บาร่าที่หนังให้ภาพว่านอกจากเป็นสาวแก่ผู้โดดเดี่ยวแล้ว เธอยังเป็นคนที่สิ้นหวัง และเหงา เมื่อชีบาให้ความสนิทสนมเป็นกันเอง เล่าเรื่องราวในอดีต และความเหนื่อยล้าต่อครอบครัวทำให้บาร์บาราเข้าใจว่านี่คือการ "ไว้ใจ" จากมิตร

 หนังหักมุมให้บาร์บาร่าไปมีส่วนล่วงรู้ความลับของชีบา ทำให้เธอใช้เงื่อนไขการร่วมปกปิดความลับนั้นแทรกตัวเข้าไปอยู่ในชีวิตชีบาผู้เปราะบางต่อกิเลส และบีบให้ชีบาเป็นเพื่อนสนิทกับเธอตลอดไป…