คุณภาพคับจอ! ประวัติทีมนักแสดงชั้นยอดแห่งเมืองผู้ดีจาก Victoria & Abdul
"พระองค์(พระนางวิคตอเรีย)เป็นพระราชินีของอังกฤษ เขา(อับดุล)เป็นเสมียนผู้ต่ำต้อยจากอินเดีย มิตรภาพของพวกเขาจะช็อคพระราชวังและนำไปสู่การต่อต้านพระราชินีถึงขั้นเกือบจะปฏิวัติ" - ชราบานี บาซู นักเขียนหญิงผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นหนังเรื่อง Victoria & Abdul
"จูดี้ เดนซ์" กลับมารับบทเป็นราชินีวิคตอเรียอีกครั้งหลังจากที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก Mrs. Brown ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็เป็นการต่อยอดเรื่องราวในบั้นปลายชีวิตของพระนาง กับเรื่องจริงที่ถูกปิดซ่อนจากสายตาชาวโลกมาเป็นศตวรรษ หนังถูกดัดแปลงจากหนังสือ Victoria & Abdul: The True Story of the Queen's Closest Confidant โดย "ชราบานี บาซู"
Victoria & Abdul ถ่ายทอดเรื่องราวมิตรภาพสุดประทับใจระหว่าง "สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย" แห่งสหราชอาณาจักรกับ “อับดุล คาริม” เสมียนหนุ่มจากอินเดีย ที่เดินทางจากอินเดียเพื่อเข้าร่วมในงานฉลองการครองราชย์ครบ 50 ปีของพระองค์ แต่ไปๆ มาๆ กลับได้มากลายเป็นที่โปรดปรานของพระราชินีผู้สูงวัยอย่างน่าประหลาดใจ ความสัมพันธ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่น่าเป็นไปได้นี้ก่อให้เกิดศึกภายในพระราชวัง พระราชินีต้องทรงงัดข้อกับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพาร Victoria & Abdul ตั้งคำถามเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา อำนาจ และความไร้สาระของจักรวรรดิอย่างติดตลก ผ่านมุมมองของมิตรภาพที่เหนือความคาดหมาย และลึกซึ้งกินใจ ซึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 12 ตุลาคม 2560 นี้
นอกจากจูดี้ เดนซ์ นักแสดงอาวุโสมากฝีมือที่รายชื่อถูกเสนอเข้าชิงรางวัลจากเวทีต่างๆ มากมายจนยาวเป็นหางว่าวแล้ว ยังมีนักแสดงจากเกาะอังกฤษคุณภาพคับแก้วมากมายที่ร่วมตบเท้าเข้ามาแสดงหนังเรื่องนี้ จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพ และการแสดงอันยอดเยี่ยมของเรื่องราวนี้แน่นอน และวันนี้จะมาขอแนะนำทีมนักแสดงนำจากเรื่อง Victoria & Abdul ใครเป็นใครกันบ้าง ไปชมกันเลย
1. จูดี้ เดนช์ (สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย)
นับจากการรับบทเป็นโอฟีเลีย ใน Hamlet ที่โรงละครโอลด์ วิก เมื่อ 60 ปีที่แล้ว จูดี้ เดนช์ได้รับคำชื่นชมทั่วโลก จากผลงานมากมายในอาชีพการแสดง ทั้งบทบาทในเรื่องราวย้อนยุค และเรื่องราวร่วมสมัย จนถึงตอนนี้ เธอได้รับรางวัลบาฟต้ามาแล้ว 10 รางวัล
เดนช์ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น OBE (Order of the British Empire) เมื่อปี 1970 สำหรับการทำงานให้กับละครเวทีของอังกฤษ และในปี 1988 ได้รับพระราชทานเครื่องราชย์ DBE (Dame of the British Empire) ซึ่งเป็นเครื่องราชย์ชั้นอัศวินสำหรับผู้หญิง (ผู้ที่ได้รับจะมีคำหน้าชื่อ ว่า Dame เทียบเท่าใกล้เคียงกับตำแหน่งท่านผู้หญิงของบ้านเรา) ปี 2005 เธอได้รับพระราชทานเครื่องราชย์ Companion of Honour
เธอได้รับรางวัลออสการ์จากเรื่อง Shakespeare in Love ของจอห์น แมดเดน ในบทพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 รวมทั้งได้รางวัลบาฟต้า และรางวัลสมาคมนักวิจารณ์แห่งชาติ ของอเมริกา (National Society of Film Critics) จากเรื่องนี้ การร่วมงานกันก่อนหน้า ของเดนช์กับแมดเดน เรื่อง Mrs. Brown ทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลออสการ์, รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลบาฟต้า ในหนังเรื่องนี้เธอรับบทเป็นพระราชินีวิคตอเรียเป็นครั้งแรก
เดนช์ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์และรางวัลลูกโลกทองคำอีกครั้ง จากหนังของลาสซี ฮอลล์สตรอม เรื่อง Chocolat และได้รับรางวัลสมาคมนักแสดงแห่งอเมริกา (SAG) เธอได้รางวัลบาฟต้าจากเรื่อง Iris และ ได้รับรางวัล บีฟา (British Independent Film Awards) จากเรื่อง Notes on a Scandal ได้เข้าชิงรางวัลอสการ์ จากเรื่อง Mrs. Henderson Presents และ Philomena ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหนังที่เธอร่วมงานกับสตีเฟน เฟรียร์ส
ผลงานเรื่องอื่นๆของเธอ เช่น Wetherby ของเดวิด แฮร์, A Room with a View ของเมอร์แชนต์ ไอเวอรี ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลบาฟต้า, 84 Charing Cross Road ของเดวิด โจนส์, A Handful of Dust ของชาร์ลส สเตอร์ริดจ์ ที่เธอได้รับรางวัลบาฟต้าเช่นกัน, Henry V, Hamlet และ Murder on the Orient Express ของเคนเนธ บรานาห์, Tea with Mussolini ของฟรังโก เซฟฟิเรลลี, The Shipping News ของลาสซี ฮอลล์สตรอม, Ladies in Lavender ของชาร์ลส์ แดนซ์, Pride & Prejudice ของโจ ไรท์, Jane Eyre ของแครี โจจิ ฟูกูนากะ, Nine ของร็อบ มาร์แชลล์, The Best Exotic Marigold Hotel ของจอห์น แมดเดน, รับบทเป็นเป็น “เอ็ม” เจ็ดตอนในหนังชุด James Bond 007 ในตอนที่มีเพียร์ซ บรอสแนน และแดเนียล เครก รับบทเป็นบอนด์ และ My Week with Marilyn ของไซมอน เคอร์ทิส
ผลงานทางโทรทัศน์ของเธอ เช่น ซีรีส์ที่ออกอากาศยาวนาน เรื่อง As Time Goes By, หนังที่สร้างสำหรับฉายทางทีวี เรื่อง The Last of the Blonde Bombshells ที่เธอได้รับรางวัลบาฟต้า และลูกโลกทองคำ และมินีซีรีส์เรื่อง Cranford ที่กำกับโดยสตีฟ ฮัดสัน และไซมอน เคอร์ทิส ที่เธอได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี, บาฟต้า และรางวัลลูกโลกทองคำ
ส่วนผลงานด้านละครเวทีในช่วงไม่นานนี้ เดนช์นำแสดงในละครเวที เรื่อง The Winter’s Tale ของเคนเนธ บรานาห์, The Vote ของโจซี รูร์ค, A Midsummer Night’s Dream ของเซอร์ ปีเตอร์ ฮอลล์, Madame de Sade ของไมเคิล แกรนเดจ, ละครเพลงเรื่อง Merry Wives of Windsor: The Musical ของเกร็ก โดแรน, Hay Fever ของเซอร์ ปีเตอร์ ฮอลล์, All’s Well That Ends Well, The Breath of Life ของเดวิด แฮร์ แสดงร่วมกับแม็กกี สมิธ, The Royal Family ของปีเตอร์ ฮอลล์ และเรื่อง Amy’s View ของเดวิด แฮร์ (เดนช์ได้รับรางวัลโทนีจากการแสดงในเรื่องนี้ที่บรอดเวย์ และได้เข้าชิงรางวัลโอลิเวียร์จากการแสดงที่อังกฤษ)
2. อาลี ฟาซาล (อับดุล คาริม)
อาลี ฟาซาล สร้างชื่อเสียงของเขาในฐานะนักแสดงละครเวทีและดาราภาพยนตร์ในประเทศอินเดีย และกำลังจะเป็นที่รู้จักของคนดูทั่วโลกในฐานะดารานำ ฟาซาลเกิดและโตที่อินเดีย เรียนวิชาการแสดง และได้รับความสนใจจากนักวิจารณ์ จากการแสดงละครเวที เรื่อง A Guy Thing ซึ่งนำเขาไปสู่การแสดงภาพยนตร์อินเดีย (บอลลีวู้ด) เรื่องแรก คือการรับบทนำในดังเรื่อง 3 Idiots ในบทจอย โลโบที่เป็นที่จดจำของคนดู 3 Idiots กลายเป็นหนังบอลลีวู้ดที่ทำเงินสูงสุดในอินเดียในเวลานั้น และทำเงินในการออกฉายทั่วโลก 65 ล้านดอลลาร์
ผลงานละครเวทีเรื่องอื่นของเขา รวมถึงการรับบทนำใน White Rabbit, Red Rabbit ของ Nassim Soleimanpour, Crab ของ Arghya Lahiri, ละครเพลงเรื่อง Fashion Broadway ของ Rohan Sippy, เรื่อง The Duck Variations และ The Real Inspector Hound ซึ่งเป็นบทละครคลาสสิกเรื่องหนึ่งของทอม สต็อปปาร์ด
ฟาซาลนำแสดงในหนังบอลลีวู้ดมาแล้วมากมาย รวมถึงหนังฮิต เรื่อง Fukrey กำกับโดย Mrigdeep Singh Lamba, เรื่อง Baat Bann Gayi ของ Shuja Ali, Sonali Cable ของ Charudutt Acharya, Khamoshiyan ของ Karan Darra, Happy Bhag Jayegi ของ Mudassar Aziz และ Always Kabhi Kabhi ของ Roshan Abbas ปลายปี 2017 นี้เขาจะมีผลงานใหม่ในหนังภาคต่อของเรื่อง Fukrey คือ Fukrey Returns กำกับโดยผู้กำกับคนเดิม Mrigdeep Singh Lamba
ในผลงานทางจอเล็ก ฟาซาลแสดงนำในซีรีส์ที่สร้างสำหรับฉายบนเว็บ เรื่อง Bang Baaja Baaraat และในมินิซีรีส์ของอเมริกา เรื่อง Bollywood Hero ทางช่องไอเอฟซี
เขาเป็นที่รู้จักในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดครั้งแรก ด้วยบทสมทบในหนังทำเงินของเจมส์ วาน เรื่อง Furious 7 ร่วมแสดงกับวิน ดีเซล, พอล วอล์คเกอร์ และดเวน จอห์นสัน
ปัจจุบันฟาซาลอาศัยอยู่ที่ประเทศอินเดีย
3. เอ็ดดี้ อิซซาร์ด (เบอร์ตี้, พรินซ์ ออฟ เวลส์)
เอ็ดดี้ อิซซาร์ด เป็นนักแสดงที่สร้างชื่อเสียงจากผลงานภาพยนตร์, ผลงานทางโทรทัศน์ และละครเวที ผลงานละครเวทีของเขา เช่น Race (ละครบรอดเวย์) และ The Cryptogram ของเดวิด มาเม็ต, Edward II ของคริสโตเฟอร์ มาร์โลว์ ที่เขารับบทนำ, 900 Oneonta และเรื่อง A Day in the Death of Joe Egg ซึ่งเรื่องนี้เขารับบทนำคู่กับวิกทอเรีย แฮมิลตัน ทั้งในลอนดอนและบรอดเวย์ ละครได้เข้าชิงรางวัลโทนีและได้รับรางวัลดรามา เดสค์
ผลงานภาพยนตร์ของเขา เช่น The Secret Agent ของคริสโตเฟอร์ แฮมปตัน, Mystery Men ของคิงกา อัชเชอร์, The Cat’s Meow ของปีเตอร์ บ็อกดาโนวิช ที่เขารับบทเป็นนักแสดงตลกในตำนาน ชาร์ลี แชปลิน, Valkyrie ของไบรอัน ซิงเกอร์, Boychoir ของฟรองซัวส์ จิรารด์, Across the Universe ของจูลี เทย์มอร์, Castles in the Sky และ Whisky Galore! ของกิลลิส แม็คคินนอน, The LEGO Batman Movie ของคริส แม็คเคย์ และหนังของสตีเวน โซเดอร์เบิร์กสองเรื่อง คือ Ocean’s Twelve และ Ocean’s Thirteen
ในผลงานทางทีวี เขารับบทนำ และทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างในซีรีส์ที่ได้รับคำชมของเอ็ฟเฟกซ์ เน็ตเวิร์ก เรื่อง The Riches ซึ่งเขาได้เข้าชิงรางวัลแซทเทิลไลต์ เขามีบทรับเชิญในซีรีส์ของโซนี เพลย์สเตชัน เน็ตเวิร์ก เรื่อง Powers และในสามซีซันของซีรีส์ดังของเอ็นบีซี เรื่อง Hannibal ส่วนผลงานในหนังที่สร้างสำหรับฉายทางทีวีของเขา เช่น Treasure Island ของสตีฟ บาร์รอน และ Lost Christmas ของจอห์น เฮย์
หนังสารคดีของซาราห์ ทาวน์เซนด์ เรื่อง Believe: The Eddie Izzard Story นำเสนอเรื่องราวของชีวิตและการทำงานของอิซซาร์ด ได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี
4. อาดีล อัคห์ทาร์ (โมฮัมเหม็ด)
นักแสดงชาวอังกฤษ อาดีล อัคทาร์สร้างชื่อจากการแสดงในหนังของคริส มอร์ริส เรื่อง Four Lions ที่ได้เข้าชิงรางวัลบีฟา (British Independent Film Awards) สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลเอ็มไพร์สาขาภาพยนตร์ตลกยอดเยี่ยม รวมทั้งรางวัลจากสถาบันอื่นอีกหลายรางวัล
อัคห์ทาร์ได้รับรางวัลบาฟต้า และเข้าชิงรางวัลโรยัล เทเลวิชัน โซไซตี้ จากการแสดงในหนังที่สร้างสำหรับฉายทางทีวี เรื่อง Murdered by My Father กำกับโดยบรูซ กูดิสัน ในเรื่องนี้เขารับบทนำร่วมกับคิแรน โซเนีย ซาวาร์
เขายังได้เข้าชิงรางวัลโรยัล เทเลวิชัน โซไซตี้และรางวัลบาฟต้า จากเรื่อง Utopia ซึ่งเป็นซีรีส์ที่เขานำแสดงทั้งสองซีซัน ร่วมกับฟิโอนา โอ’ชอห์เนสซี และพอล ฮิกกินส์ นักแสดงอีกคนจาก Victoria & Abdul ซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งผสมผสานเนื้อเรื่องแนววิทยาศาสตร์กับเรื่องลี้ลับได้อย่างลงตัวและโดดเด่น งานสร้างของเดนนิส เคลลี ได้รับรางวัลเอ็มมีสาขาซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม สำหรับผลงานซีรีส์ต่างประเทศ
ผลงานโทรทัศน์เรื่องเด่นๆเรื่องอื่นของเขา เช่น มินิซีรีส์ เรื่อง Apple Tree Yard กำกับโดยเจสสิก้า ฮ็อบบ์ส ร่วมแสดงกับเอมิลี วัตสัน และเบน แชปลิน, ซีซันที่สองของซีรีส์แนวดราม่าอาชญากรรม เรื่อง Unforgotten, หนังที่สร้างสำหรับฉายทางทีวี เรื่อง The Circuit เขียนบทโดยชารอน ฮอร์แกน และเดนนิส เคลลี กำกับโดยเบน เทย์เลอร์
เขายังร่วมแสดงในมินิซีรีส์เรื่องดัง The Night Manager กำกับโดยซูซานน์ เบียร์ จากนิยายของจอห์น เลอ คาร์เร ที่ได้รับสามรางวัลรางวัลลูกโลกทองคำ, สองรางวัลเอ็มมี และสามรางวัลบาฟต้า ในจำนวนรางวัลอื่นๆที่เรื่องนี้ได้รับ อัคห์ทาร์จะเป็นนักแสดงประจำในซีรีส์แนวตลกเกี่ยวกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เรื่อง Ghosted ที่จะเริ่มออกอากาศในอเมริกาฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทางเครือข่ายฟ็อกซ์
ส่วนผลงานภาพยนตร์ อัคห์ทาร์มีผลงานในภาพยนตร์เรื่องเด่นๆมาแล้วมากมาย เช่น The Dictator ของแลร์รี ชาร์ลส์ ร่วมแสดงกับซาชา บารอน โคห์เอน, Pan ของโจ ไรท์ ร่วมกับฮิวจ์ แจ็คแมน, War Book ของทอม ฮาร์เปอร์ ร่วมแสดงกับเบน แชปลิน, เคอร์รี ฟ็อกซ์, โซฟี โอโคเนโดะ และแอนโทนี เชอร์, Convenience ของเคอรี คอลลินส์ และหนังแนวรอมคอมที่ได้รับคำชม เรื่องThe Big Sick กำกับโดยไมเคิล ชาวอลเทอร์